ปัญหาเด็กหยุดเรียนกลางคัน เด็กเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา ขาดเรียน ถือเป็นเรื่องหนักใจสำหรับครูอาจารย์ผู้สอนทุกท่าน ด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์คุณครูหลายคนพยายามหากลวิธีกุศโลบายสารพัดเข้าแก้ไขปัญหาเหล่านั้นแต่ยังได้ผลไม่ดีนัก อย่างโรงเรียนโชติคุณเกษมบ้านเมืองงาม จ.เชียงใหม่ เคยประสบปัญหาเด็กขาดเรียน เสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา หยุดเรียนไปกลางคัน ปัจจุบันปัญหานี้ถูกคลี่คลายลงอย่างได้ผลผ่านกระบวนการสำคัญต่อไป
สมมาตรวรัชญ์ วงศ์อนุสกุล อาจารย์ประจำชั้น ม.3 โรงเรียนโชติคุณเกษมบ้านเมืองงาม จ. เชียงใหม่ เผยว่า จากการนำแอพพลิเคชั่นระบบคัดกรองนักเรียนยากจน หรือ CCT ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคเพื่อการศึกษา (กสศ.) มาใช้ติดตามนักเรียนพบว่าสามารถอำนวยความสะดวกให้กับครู และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดจนช่วยลดจำนวนนักเรียนที่หลุดออกนอกระบบการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ย้อนไปช่วงเมื่อประมาณ 2-3 ปี ก่อน มีนักเรียนหลายสิบคนที่หลุดออกนอกระบบการศึกษา จากจำนวนนักเรียนประมาณ 530 คน แต่ปัจจุบันเมื่อเริ่มนำระบบติดตามประเมินผลมาใช้แล้ว อัตราหลุดออกนอกระบบการศึกษาของนักเรียนแทบจะเป็นศูนย์ มีนักเรียนมาเรียนเกือบครบ 100% จะมีเพียงบางกรณีเช่นการย้ายตามผู้ปกครองไปพื้นที่อื่น
ครูสมมาตรวรัชญ์ กล่าวว่า ปกติโรงเรียนจะมีระบบติดตามเด็กขาดเรียนอยู่แล้ว เช่น ขาด 3 วัน 5 วัน 7 วัน 15 วัน ซึ่งก็จะมีมาตรการติดตามตัวเด็กเป็นขั้นตอน แต่เมื่อมีระบบแอปพลิเคชันเข้ามา ช่วยทำให้การเก็บข้อมูลง่ายและเป็นระบบที่มีข้อมูลเป็นปัจจุบันสะดวกต่อการติดตามเด็กมากขึ้น
ทั้งนี้ ยกตัวอย่างวันก่อน นักเรียนที่ได้ทุนคนหนึ่งไม่มาโรงเรียน 1 วันเราก็เห็น พอวันรุ่งขึ้นเขามาเรียนก็ถามเขา ซึ่งเขาก็บอกว่าพาย่าไปหาหมอซึ่งเราก็บอกให้รีบแจ้งเพราะหากเป็นเหตุฉุกเฉินก็จะได้ใช้เป็นลากิจเพื่อจะได้ไม่กระทบกับเกณฑ์การเข้าเรียน 80 %
“มีแอปพลิเคชันระบบคัดกรองและติดตามประเมินผลนักเรียน แล้วสะดวกขึ้นมาก อย่างการเช็คชื่อก็ง่ายกว่าเดิมที่จดลงกระดาษ จะขัดข้องบ้างก็ตรงที่พื้นที่โรงเรียนอยู่บนเขาสัญญาณเน็ตอาจไม่เสถียรมากนัก ก็ต้องใช้วิธีการทำข้อมูลใน PC ซึ่งจะเห็นข้อมูลทั้งรูปบ้าน เวลาเรียน น้ำหนักส่วนสูง” ครูสมมาตรวรัชญ์ กล่าว
ครูสมมาตรวรัชญ์ ระบุอีกว่า การได้ทุนการศึกษาตรงนี้จาก กสศ. ช่วยให้เด็กหลายคนได้กลับเข้ามาสู่การศึกษาไม่หลุดออกจากระบบ เพราะเงิน 800 บาท ที่เด็ก ๆ ใช้จ่ายอยู่กันได้เป็นเดือนประกอบกับที่ทางโรงเรียนนำเงินอีกส่วนมาจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ ปลูกไก่ เลี้ยงผัก แปรรูปอาหาร ทำไข่เค็มชนเผ่า หมูแดดเดียว กล้วยฉาบ เป็นต้น
ครูสมมาตรวรัชญ์ ระบุอีกว่า การได้ทุนการศึกษาตรงนี้จาก กสศ. ช่วยให้เด็กหลายคนได้กลับเข้ามาสู่การศึกษาไม่หลุดออกจากระบบ เพราะเงิน 800 บาท ที่เด็ก ๆ ใช้จ่ายอยู่กันได้เป็นเดือนประกอบกับที่ทางโรงเรียนนำเงินอีกส่วนมาจัดกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ ปลูกไก่ เลี้ยงผัก แปรรูปอาหาร ทำไข่เค็มชนเผ่า หมูแดดเดียว กล้วยฉาบ เป็นต้น
กสศ. จดหมายลาครู CCT iSEE เชียงใหม่ สมมาตรวรัชญ์ วงศ์อนุสกุล โรงเรียนโชติคุณเกษมบ้านเมืองงาม