นักวิชาการการด้านการเกษตร เป็นเป้าหมายในชีวิตที่ใกล้จะเป็นความจริง ของ กระถิน-สศิวิมล ม่วงมี นักศึกษาเทคโนโลยีการผลิตพืช วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกได้รับ “ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ ปี 2563” ของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ได้เรียนต่อเนื่องจนถึงระดับปริญญาเอก
ก่อนจะค้นพบตัวเองว่าชอบการเกษตร กระถิน เคยเข้าเรียนที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เป็นเวลาปีครึ่งเพราะเคยคิดว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มั่นคง แม้จะทำเกรดได้ดี แต่ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง จนสุดท้ายได้มาค้นมาพบตัวเองว่าชอบการเกษตรและตัดสินใจเข้าเรียนระดับปวส.ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง
“ตอนเรียนครูตอนนั้นก็กดดันตัวเองเพราะไม่ถนัด ไม่เข้าใจ จนทำให้เราก็ย้อนกลับมาดูตัวเองดีๆ ว่าเราชอบไหม เราถนัดไหม เมื่อคิดว่ามันไม่ใช่ก็ตัดสินใจบอกแม่ว่าจะลาออก แม่ก็บอกว่าทนอีกนิดได้ไหม แต่หนูบอกว่าไม่ไหว แล้วก็ย้ายมาเรียนที่วิทยาลัยเกษตรฯ ที่อยู่แถวบ้าน อีกด้านหนึ่งก็ถือว่าได้ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องมีค่าหอพัก ตอนนั้นก็คิดหลายๆ ด้านประกอบกัน”
ฝึกงานที่ศูนย์วิจัยข้าวฯ ยิ่งทำให้มีความสุข
ในฐานะที่เป็นลูกหลานเกษตรกร ภาพการทำนาและทำสวนยางของที่บ้านเป็นภาพที่คุ้นชินมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้ตัวว่าชอบการเกษตรจนได้มาคุยกับเพื่อนที่เรียนที่วิทยาลัยเกษตรฯ และเข้าไปหาความรู้ใน Youtube เพิ่มเติมดูเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำให้ปลุกความเป็นเกษตรกรในตัวและค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นนักวิชาการการเกษตรที่จะออกไปให้ความรู้คนอื่น
“พอได้ไปเรียนเกษตรแล้วก็รู้สึกว่าใช่ตัวตนของเราจริงๆ เกษตรแบ่งเป็นพืชกับสัตว์ซึ่งหนูเลือกเรียนพืชก็จะเรียนทั้งปฏิบัติ และทฤษฎีควบคู่กันไป ต้องเรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับพืช เรียน ทั้ง ข้าว ยาง มันสำปะหลัง ตอนปวส. ยังเรียนกว้างๆ แต่จะมาเรียนลึกเรื่องข้าว ยาง ปาล์มน้ำมันตอนปริญญาตรี และตอนได้ฝึกงานที่ศูนย์วิจัยข้าวฯ พัทลุง ยิ่งมีความสุขมาก”
ความสุขในการเรียนเกษตรของกระถิน คือ ได้ฝึกให้เป็นคนได้สังเกต เช่น พอเจอแมลงศัตรูพืช ก็จะตั้งคำถามว่าตัวนี้คือตัวอะไร ข้าวมีลักษณะแบบนี้เป็นโรคอะไร ก็จะเก็บคำถามไปถามครูฝึกที่เป็นนักวิชาการการเกษตรเป็นความสุขที่ค่อยๆ สะสมความรู้ไปเรื่อยๆ
เกียรติสูงสุดในชีวิต นำเสนอโครงงานต่อหน้าพระพักตร์
ในแง่กิจกรรมนอกหลักสูตร กระถิน สามารถไปคว้า ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์-อาชีวศึกษาเอสโซ่ ระดับชาติ เรื่องผลของสูตรอาหารเพาะเลี้ยงต่อการเจริญเติบโตของต้นม่วงเทพรัตน์ที่งอกจากเมล็ดเทียม ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.ปทุมธานี
ต้นม่วงเทพรัตน์เป็นไม้ดอกจากประเทศเยเมน มีสรรพคุณสามารถรักษาโรคดีซ่าน โดยได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักการเพาะพันธุ์เดิมใช้วิธีปักชำแต่การใช้เมล็ดเทียมจะทำให้ขยายพันธ์ได้มากขั้นหลายเท่าตัว
“เป็นวิธีที่ค่อนข้างยาก ต้องทำอยู่หลายเดือน ช่วงแรกมีเชื้อราก็ต้องกลับมาทำใหม่ เพราะเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ โดยมีอาจารย์คอยให้คำแนะนำ เราก็คอยแก้ตรงไหนผิดพลาดก็นำมาเป็นบทเรียนแก้ไขใหม่จนสำเร็จ”
ในการประชุมวิชาการระดับประเทศกระถินได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนำเสนองานวิจัยต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
ภูมิใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของแม่
สำหรับเส้นทางการเรียน กระถิน วางแผนตั้งแต่เริ่มเรียนระดับ ปวส. แล้วว่า จะเรียนต่อจนจบระดับปริญญาตรีแล้วค่อยออกมาสมัครเป็นนักวิชาการการเกษตร เมื่อทาง กสศ. ประกาศรับสมัครทุนการศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษาได้บอกว่ามีทุนนี้ที่ให้ทุนทั้งค่าเรียน กินอยู่ สนับสนุนค่าทำวิจัย ตอนแรกก็ลังเลเพราะเราไม่ได้เก่งมาก เกรดเฉลี่ย 3.66 ไม่รู้ว่าต้องไปแข่งกับคนอื่นๆ ที่เก่งกว่าอีกเท่าไหร่
“จนประกาศผลออกมาเราได้รับทุนตอนนั้นดีใจมากรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของแม่ รู้สึกดีใจที่จะได้ไม่ทำให้แม่ต้องหนักใจเรื่องเงินที่ต้องส่งเราเรียน คนรอบข้าง เพื่อน อาจารย์ก็มาแสดงความยินดี”
กระถิน เล่าให้ฟังว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรีในปีนี้ ได้วางแผนว่าจะเรียนต่อปริญญาโทเกี่ยวกับโรคพืชหรือการพัฒนาการเกษตร ซึ่งจะได้เรียนลึกลงไปในรายละเอียดที่มากกว่าระดับปริญญาตรี โดยมองไว้ 3 ที่ คือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จะต้องสอบเข้า หรือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และ วิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ที่สมัครเข้าเรียนได้เลย
เส้นทางที่เลือกแล้ว และจะทำให้ดีที่สุด
“ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงวันนี้ได้ในอดีตภาพอนาคตของเราคือได้เป็นครู แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป จากที่เรียนสายสามัญ เรียนสายวิทย์-คณิต เข้าเรียนครุศาสตร์ก่อนจะออกมาเรียน ปวส. จบแล้วต่อปริญญาตรีด้านการเกษตร และกำลังจะได้ทุนเรียนต่อปริญญาโท แต่ก็เป็นเส้นทางที่เราเลือกและจะทำให้ดีที่สุด”
กระถิน ยืนยันว่า ตัดสินใจถูกที่ย้ายมาเรียนสายอาชีพซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด ซึ่งการเรียนสายอาชีพทำให้ได้ลงมือปฏิบัติจริง ต้องขอบคุณ “โอกาส” ในการศึกษาที่ได้รับ ในชีวิตไม่เคยคิดมาก่อนด้วยซ้ำว่าจะได้เรียนปริญญาโทการได้ทุนนี้ทำให้ตระหนักว่าต้องตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกงาน และจบออกไปแล้วจะนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาประเทศ พัฒนาการเกษตรบ้านเรา
ส่วนการเรียนต่อในระดับปริญญาเอกนั้นยังต้องขอรอดูผลการเรียนในระดับปริญญาโทก่อนถึงจะบอกได้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป ตอนนั้นก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดเพื่อจบออกมาเป็นนักวิชาการการเกษตร ให้ความรู้ชาวบ้าน เช่น การใช้สารเคมีจะใช้สัดส่วนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมไม่เป็นอันตรายกับผู้ใช้ และทำให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพ
กระถิน ถือเป็น 1 ใน 13 นักศึกษาสายอาชีพที่ได้รับทุน “ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ ปี 2563” ให้ศึกษาในระดับปริญญาตรี ต่อเนื่องถึงปริญญา ซี่งถือเป็นทุนแรกของรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมให้ให้คนจบสายอาชีพ ได้เรียนต่อระดับปริญญาตรีขึ้นไป ในสาขาที่ตอบโจทย์ประเทศ ทั้ง S-Curve New S-Curve STEM และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
www.eef.or.th/donate/
ธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์
เลขที่ : 172-0-30021-6
บัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค