แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา
ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือระดับโลกจับมือลุยขยายสัญญาณเน็ตฟรี
บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำระดับโลกจับมือร่วมกันขยายพื้นที่ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตฟรีในหลายประเทศทั่วโลก ตั้งเป้าลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เปิดทางให้การเรียนการสอนทางไกลเข้าถึงและครอบคลุมมากขึ้น
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เปิดเผยว่า บรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชั้นนำระดับโลกเหล่านี้ ล้วนเป็นสมาชิกพันธมิตรของเครือข่าย Global Education Coalition โดยทั้งหมดกำลังยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต พร้อมเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์ฟรี ในทุกภูมิภาคของโลก ที่กำลังเผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้ต้องหันมาเรียนหนังสือออนไลน์ เพราะโรงเรียนปิด
Audrey Azoulay ผู้อำนวยการทั่วไปของ UNESCO กล่าวว่า ขณะที่ Global Education Coalition เร่งเดินหน้าให้การสนับสนุนแนวทางแก้ไขทั้ง ออนไลน์ และ ออฟไลน์ ในช่วงโรงเรียนปิดหนีโควิด-19 อย่างแข็งขัน การหาทางให้เด็กนักเรียนเข้าถึงเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตให้ได้มากที่สุดก็ถือเป็นหนทางที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผลการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่า อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชากรทั่วโลกมีเพียง 43% เท่านั้น
ทั้งนี้ อุปสรรคแรกสุดและสำคัญที่สุดที่ทำให้เด็กเรียนทั่วโลก โดยเฉพาะ นักเรียนในกลุ่มยากจนและด้อยโอกาสไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ก็คือ สนนราคาค่าใช้จ่าย
“โครงการริเริ่มจากเครือข่ายพันธมิตรนี้ คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุดที่แสดงให้เห็นความสำเร็จของความร่วมมือระหว่าง UNESCO กับบรรดาบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ชั้นนำ โดยให้บริการจัดทำเนื้อหาทางการศึกษาให้สามารถเข้าถึงผ่านโลกออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในหลายประเทศ” Azoulay กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น Azoulay กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้น ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตฟรี เป็นทางเลือกที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่โรงเรียนไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
รายงานระบุว่า ขณะนี้ ผู้ให้บริการอย่าง Orange และ Vodafone ได้จัดทำโครงการอินเทอร์เน็ตฟรีเพื่อสนับสนุนแพล็ตฟอร์มการเรียนทางไกลในบางประเทศที่โรงเรียนยังคงปิดอยู่ และส่งผลกระทบต่อนักเรียนราว 1,260 ล้านคนทั่วโลก
Orange เปิดเผยว่า ได้จัดทำโครงการอินเทอร์ฟรีสำหรับแพล็ตฟอร์มทางการศึกษา ใน บูร์กีนา ฟาโซ. กินี, มาลี และสาธารณรัฐคองโก นอกจากนี้ ยังวางแผนจัดเตรียมโครงการที่คล้ายกันนี้ในประเทศบอตสวานา, คาเมรูน, โกตดิวัวร์, ลิเบอเรีย, มาดากัสการ์, อียิปต์, จอร์แดน, โมรอคโค และตูนีเซีย
Alioune Ndiaye กรรมการผู้อำนวยการ Orange ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา กล่าวว่า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทางบริษัทตั้งเป้าเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับการเข้าถึงทางการศึกษา ดังนั้น ภายใต้บริบทปัจจุบัน Orange จึงได้เปิดแพ็กเกจ อินเทอร์เน็ตฟรี และ อินเทอร์เน็ต ราคาถูก เพื่อการเรียนการสอนออนไลน์โดยเฉพาะ
“นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีเครือข่ายของผู้ให้บริการของบริษัทเกือบทั้งหมด ได้เปิดการเข้าถึงเนื้อหาออนไลน์ฟรีให้แก่เด็กเรียนและนักศึกษาในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเรียนออนไลน์จะได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น” Ndiaye กล่าว
ด้าน Vodafone เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้แจกซิมการ์ดฟรีแก่เด็กนักเรียนในประเทศซาเมาแล้วราว 80,000 คน โดยซิมการ์ดดังกล่าวจะเปิดทางให้นักเรียนสามารถเข้าถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G แบบไม่จำกัด เพียงแต่จะจำกัดเนื้อหาการเข้าถึงเว็บไซต์ไว้เฉพาะสำหรับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่ได้รับการอนุม้ติรับรองจากทางการแล้วเท่านั้น
นอกจากนี้ ทาง Vodafone ยังทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กีฬาและวัฒนธรรม ของซาเมา และองค์กร UNESCO ในการเป็นผู้สนับสนุนพัฒนา Portal เรียนออนไลน์สำหรับนักเรียนฟรีภายใต้หลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ
“การลงทุนของเราเพื่ออนาคตทางการศึกษาของเด็กๆ สะท้อนให้เห็นพันธกิจและค่านิยมของบริษัท ซึ่ง Vodafone ต้องการเสริมพลังให้แก่คนรุ่นต่อไปให้มีศักยภาพที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะเป็นได้ และซิมการ์ดนักเรียนฟรีนี้ มีสัญญาณและระบบเครือข่ายที่จำเป็นเท่าที่นักเรียนและนักศึกษาต้องการเพื่อให้การเรียนของตนก้าวหน้ามากที่สุด Satish Sharma ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Vodafone ระบุ
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน และแรงสนับสนุนจากภาครัฐบาลอย่างเต็มที่ แต่ข้อมูลจาก UNESCO พบว่า ขณะนี้ ยังคงมีเด็กและเยาวขนทั่วโลกอย่างน้อย 500 ล้านคนที่โดนตัดออกจากระบบการศึกษา โดยมีเหตุผลหลักส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเรื่องการที่ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้
ขณะเดียวกัน แม้ในบางภูมิภาคอย่างยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือมีสัดส่วนผู้ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ 15% แต่สัดส่วนดังกล่าวกลับสูงถึง 80% ในแถบแอฟริกา ยิ่งไปกว่านั้น แม้โทรศัพท์มือถือจะช่วยให้เด็กนักเรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาข้อมูลที่สำคัญต่อการเรียน และสามารถติดต่อกับคุณครูและเพื่อนร่วมชั้นได้ กระนั้น ก็ยังมีเด็กนักเรียนราว 56 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีกระทั่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
UNESCO ย้ำว่า นับต่อจากนี้ไป ความจำเป็นในการเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา จะยิ่งทวีความความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่ออนาคตทางการศึกษาของเด็กๆ ทั่วโลกทุกคน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรับได้รับแรงสนับสนุนจากทุกฝ่าย ทั้งด้านเงินทุน กำลังพล และการลงมือปฎิบัติ
ทั้งนี้ The Global Education Coalition เป็นกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือทางการศึกษาที่มีสมาชิกจากภาคเอกชนและองค์กรเอ็นจีโอแล้วกว่า 100 แห่งทั่วโลก รวมถึงบริษัทชั้นนำอย่าง ไมโครอฟท์ อีริคสัน และมูลนิธิมาสเตอร์การ์ด โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมทรัพยากรและทักษะจากองค์กรเหล่านี้มาใช้เพื่อยกระดับการศึกษาทางไกลให้เป็นที่เข้าถึงทุกคนได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม โดยเฉพาะในการศึกษาทางไกลในประเทศที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยังล้าหลังไม่ครอบคลุม
