จาก”พืชในบ้าน” สู่ “ขนมโคสมุนไพร”
ของอร่อยพื้นบ้าน ของนักเรียนบ้านหัวคลอง
“ขนมโค” เป็นขนมพื้นเมืองของภาคใต้ รสชาติอร่อย กินง่าย จนกลายเป็นที่นิยมของทุกเพศทุกวัย และมักจะถูกนำมาเป็นของหวานสำหรับงานบุญ และงานเลี้ยงในเทศกาลต่างๆ
ภายนอกขนมชนิดนี้จะมีลักษณะทั่วไปคล้ายกับ “ขนมต้ม” ของภาคกลาง แตกต่างกันที่ไส้ ซึ่งขนมโคจะมีไส้เป็น “น้ำตาลแว่น” หรือ “น้ำตาลโตนด” แทนไส้กระฉีกที่ทำมาจากมะพร้าวในขนมต้ม
แต่ “ขนมโค” ฝีมือเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวคลอง โรงเรียนขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวาน ต.บ้านนอก อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี กลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างๆ ไปจากขนมโคที่อื่น ด้วยสูตรลับที่นำพืชสมุนไพรมาเป็นส่วนผสมได้อย่างลงตัว
ทำให้ “ขนมธรรมดา”กลายเป็น “ขนมไม่ธรรมดา” มีรสชาติสีสันน่ากิน และยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ที่สำคัญสมุนไพรเหล่านี้เป็นพืชใกล้ตัวที่ปลูกอยู่ในรั้วบ้านของนักเรียน ไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองเงินจากที่อื่น
ทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นจากโครงการฝึกทักษะอาชีพของโรงเรียนบ้านหัวคลอง โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการเงินอุดหนุนช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไข หรือ ทุนเสมอภาค ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
น.ส.วนิดา หมั่นดี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหัวคลองเล่าถึงขั้นตอนการฝึกทักษะอาชีพ ว่าขนมต้มมีกรรมวิธีทำไม่ยาก เด็กทุกคนจะรู้ว่าส่วนผสมของขนมโคจากสมุนไพรนั้น มีอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเป็นวัตถุดินที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลแว่น มะพร้าวขูด
ส่วนวิธีการทำนั้น พอนักเรียนเห็นครูปั้นอย่างไร เขาก็จะปั้นตาม ซึ่งในการฝึกทักษะอาชีพนี้ จะแบ่งเป็นกลุ่มคละชั้นตั้งแต่ป.1-ป.6 เพื่อให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วมในแต่ละขั้นตอน เด็กเล็กๆ จะช่วยพี่หยิบจับของ ส่วนขั้นตอนการทำจริงๆ หรือต้องใช้ทักษะมากหน่อยก็จะเป็นขั้นตอนของเด็กที่โตหน่อย
สมุนไพรในรั้วบ้าน เพิ่มคุณค่าให้ขนมธรรมดา
ความพิเศษของ “ขนมโคสมุนไพร” ของนักเรียนบ้านหัวคลองอยู่ตรงที่ ทำมาจากจากสมุนไพรที่ปลูกในบ้านของนักเรียนนั่นเอง ขั้นตอนนี้จะทำให้เด็กจะได้รู้จักคุณค่าสิ่งของที่่อยู่รอบตัว ว่าต้นไม้ที่ปลูกในบ้านนั้นมีประโยชน์สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ยกตัวอย่างใบเตยที่ให้สีเขียวจะมีสรพคุณช่วยบำรุงสมอง ทำให้สดชื่น แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ได้ ดอกอัญชัน ซึ่งให้สีคราม มีประโยชน์ ทั้ง บำรุงร่างกาย บำรุงประสาท ทำให้หายใจสะดวก ต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงลดน้ำตาลในเลือด
ส่วนฟักทองที่ให้สีเหลืองนั้น อุดมไปด้วยสารอาหาร บำรุงสายตา ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ฝึกทักษะเรียนรู้ต้นทุนขั้นตอนการซื้อขายจริง
นอกจาก “ขนมโคสมุนไพร” แล้ว ในโครงการของโรงเรียนยังมีการสอนให้ทำขนมพื้นบ้านอื่น ๆ เช่น บัวลอยสามสี ข้าวโพดอบเนย ขนมไส้กล้วย-ไส้มะม่วง คลุกเกล็ดขนมปังทอด ซึ่งขนมต่างๆ เหล่านี้ จะนำออกขายในตลาดนัดภายในโรงเรียน
“ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มไหนอยากทำอะไร เด็กๆทำเสร็จๆ ก็ขาย ทั้งโรงเรียนมีร้อยกว่าคน เงินที่ขายได้ก็ตกกลุ่มละร้อยกว่าบาท เพราะไม่มีคนนอกเข้ามา เด็กๆก็จะนำเงินนั้นเก็บไปต้นทุนเพื่อซื้อของทำฝึกทักษะและขายในครั้งต่อไป”
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหัวคลอง มองว่าโครงการฝึกทักษะอาชีพระหว่างเรียนนี้ สร้างทักษะหลายอย่างให้กับนักเรียน ที่จะได้ติดตัวไป เริ่มตั้งแต่ได้ในเรื่องของความมีระเบียบมีวินัย ความรับผิดชอบเพราะเวลาทำจะต้องมีการแบ่งหน้าที่กันว่า ใครจะเอาอะไรมา บางทีอุปกรณ์ต่างๆในโรงเรียนมีให้ไม่พอ พวกหม้อกระทะ นักเรียนก็จะนำมาจากบ้าน และเมื่อทำเสร็จแล้วก็ต้องจัดเก็บ ล้างให้เรียบร้อย
“มั่นใจว่าทักษะที่ได้เหล่านี้ จะทำให้นักเรียนของโรงเรียนสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นการหารายได้เสริม หรือหากไม่ได้เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาก็สามารถหาเลี้ยงชีพได้” ผอ.โรงเรียนบ้านหัวคคลองกล่าว
ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษา
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
www.eef.or.th/donate/
ธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์
เลขที่ : 172-0-30021-6
บัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค