ผลกระทบจาการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านจำนวนมาก ในพื้นที่เมืองปอน อ.ขุนยวม อ.แม่ฮ่องสอน ไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้เหมือนปกติ บางบ้านจากที่เคยเข้าเมืองไปทำงานก็ต้องย้ายกลับมาอยู่ในชุมชน ทำได้เพียงแค่นับวันรอให้สถานการณ์คลี่คลายขึ้น
สภาพดังกล่าวส่งผลถึงบุตรหลานที่กำลังอยู่ในวัยเรียน เพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งค่ากินอยู่ ข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องกระเบียดกระเสียนเพื่อให้ผ่านพ้นความยากลำบากช่วงนี้ไปให้ได้ บางบ้านต้องออกไปหาผักข้างทางมาประกอบอาหารกิน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
จนกระทั่งความช่วยเหลือจากโครงการ #สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม ที่ระดมความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศลงไปช่วยเหลือนักเรียนในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ศรีรัตน์ วารินทร์ ครูโรงเรียนชุมชนบ้านเมืองปอน จ.แม่ฮ่องสอน ระบุว่า ที่โรงเรียนมีนักเรียนที่ได้รับเงินช่วยเหลือทั้งหมด 102 คน โดยทางโรงเรียนใช้วิธีส่งมอบเป็นเงินสดให้กับผู้ปกครอง ซึ่งแบ่งเป็น 2 รอบ รอบแรก นักเรียนชั้น ป.1- ป.5 จำนวน 26 คน ซึ่งครูได้ไปมอบให้กับผู้ปกครองด้วยตัวเอง ส่วนที่เหลือเป็นรอบที่สองชั้น ป.6-ม.3 ใช้วิธีเรียกผู้ปกครองมารับเงินที่โรงเรียน
ทั้งนี้ จากที่ได้ไปส่งมอบเงินให้กับเด็กที่บ้านจะเห็นว่าหลายบ้านค่อนข้างลำบากบางคนที่ไม่ได้ไปรับจ้างต้องอยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีรายได้ และส่วนใหญ่แม้จะพอพึ่งพาตัวเองได้แต่ก็มีฐานะไม่ดีอยู่แล้ว การที่ได้เงิน 600 บาทไป ก็ช่วยเรื่องกินอยู่ได้เยอะทั้งเอาไปซื้อข้าวซื้อของไปทำกินได้กันทั้งบ้าน
“ผู้ปกครองและนักเรียนดีใจกันมากที่ได้รับเงินช่วยเหลือ มีบ้านหนึ่งย่าเป็นอัมพฤกษ์อยู่กับหลานสองคน พ่อไปทำงานที่ในเมือง พอดีได้เงินช่วยเหลือจากหลานทั้งสองคนคนละ 600 บาท ตรงนี้ช่วยเขาได้มากเพราะย่าไม่สามารถออกไปทำงานที่ไหนได้ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยเหลือเด็กๆ” ครูศรีรัตน์ กล่าว