น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 ได้ เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ให้มีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย
1. เด็กแรกเกิด–6 ปี จากครัวเรือนยากจน ไม่เกิน 1,451,468 คน
2. ผู้สูงอายุ ไม่เกิน 9,664,111 คน
3. ผู้พิการ ไม่เกิน 2,027,500 คน
รวมกลุ่มเปราะบางทั้งหมดไม่เกิน 13,143,079 คน
ทั้งนี้ รายละเอียดการช่วยเหลือจะจ่ายเงินเยียวยารายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เพิ่มเติมจากเบี้ยความพิการ และเพิ่มเติมจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค. – ก.ค. 2563 แต่เนื่องจากขณะนี้จะสิ้นเดือน พ.ค. แล้ว ดังนั้น ในส่วนของเดือน พ.ค. จะไปจ่ายพร้อมกับเดือนมิ.ย. รวม 2,000 บาท ส่วนของเดือน ก.ค. ก็จะจ่ายตามเวลาปกติ
ทั้งนี้ มาตรการนี้จะใช้กรอบวงเงินไม่เกิน 39,429 ล้านบาท โดยใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม หรือ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 สำหรับการจ่ายเงินเยียวยางวดเดือนพฤษภาคม 2563 ให้นำมารวมจ่ายพร้อมกันกับงวดเดือนมิถุนายน 2563 จำนวน 2,000 บาท และจ่ายงวดเดือนกรกฎาคม 2563 อีก 1,000 บาท
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ครม.มอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการคลัง พิจารณาในรายละเอียดร่วมกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจน และการเยียวยาประชาชนกลุ่มเปราะบางให้เป็นไปอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว