แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา
สัญญาณการระบาดที่ชะลอตัวลงของไวรัสโควิด-19 ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป และสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ เริ่มส่งสัญญาณทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์และเว้นระยะห่างทางสังคม เปิดทางให้กิจกรรมในภาคธุรกิจและสังคมค่อยๆ กลับมาดำเนินการตามปกติได้อีกครั้ง
การเปิดทางข้างต้น ยังหลายรวมถึง การเปิดโรงเรียนให้เด็กนักเรียนของประเทศได้กลับมาเรียนหนังสือ
งานนี้ ทางกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จีงชวนมาส่องมาตรการเปิดโรงเรียนรับยุคไวรัสโควิด -19 ของนานาประเทศทั่วโลก ว่า แต่ละชาติที่เปิดโรงเรียนต้อนรับเด็กๆ นี้ มีวิธีการเตรียมตัวเตรียม
เดนมาร์ก
เริ่มต้นที่ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งถือเป็นชาติแรกในยุโรปที่เปิดประตูรั้วโรงเรียนต้อนรับเด็กนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนเล็กๆ ในระดับชั้นประถมศึกษา ภายใต้การบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ด้วยเข้าใจธรรมชาติของเด็กๆ ที่ไม่อาจเว้นระยะห่างทางสังคมกับเพื่อนๆ ได้อย่างเด็ดขาด ทำให้ทางโรงเรียนตัดสินใจแบ่งกลุ่มเด็กออกเป็นกลุ่มเล็กๆ แทน
ซึ่งกลุ่มเล็กๆ ที่คุณครูหนึ่งท่านสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงนี้ จะมาถึงโรงเรียนในเวลาที่ต่างกัน นั่งแยกย้ายกันในช่วงพักกินข้าวเที่ยง อยู่แต่ในโซนของกลุ่มตนเองเมื่อต้องเล่นที่สนาม โดยเด็กและคุณครูในกลุ่มเล็กๆ นี้ ไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนก็ติดตั้งอ่างล้างมือ และเจลทำความสะอาดมือ ให้มากขึ้น รวมถึง เพิ่มจำนวนการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั่วโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น โดยรายงานระบุว่า โรงเรียนแทบทุกแห่งในเดนมาร์ก จะให้นักเรียนล้างมืออย่างน้อย ทุกๆ ชั่วโมง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังขอความร่วมมือจากคุณครูในการคอยเตือนเด็กๆ ให้ตระหนักถึงระยะห่างระหว่างตนเองกับเพื่อนๆ อีกด้วยโดยหนึ่งในคุณครูที่ดูแลกล่าวว่า ต่อให้เด็กๆ จะเข้าใจและตระหนักถึงความจำเป็นในการเว้นห่างระหว่างกัน แต่เมื่ออยู่ด้วยกัน เด็กๆ ก็มักจะลืมตัว ดังนั้น การแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มเล็ก จึงมีส่วนช่วยให้การใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
เยอรมนี
ในส่วนของประเทศเยอรมนี แทนที่จะเริ่มต้นจากเด็กเล็ก เยอรมนีกลับเลือกเปิดโรงเรียน โดยให้เด็กในระดับมัธยมศึกษากลับเข้ามาเรียนก่อนเป็นกลุ่มแรก
ทั้งนี้ ทางการได้กำหนดให้โรงเรียนต้องจัดที่นั่งให้เว้นระยะห่างแบบปลอดภัยต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ทางโรงเรียนเองก็กำหนดที่นั่งตายตัวให้เด็กนักเรียน ห้ามเปลี่ยนที่นั่งโดยเด็ดขาด เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่า เด็กนั่งอยู่ตรงไหน และมีใครนั่งใกล้กันบ้าง
นอกจากนี้ หลักการใช้ห้องเรียนก็คล้ายคลึงใกล้เคียงกับของทางเดนมาร์ก กล่าวคือ ทอนจำนวนนักเรียนในห้องให้มีขนาดเล็กลง เพื่อจำกัดจำนวนนักเรียนให้เหมาะสมกับขนาดห้องเรียน ซึ่งในกรณีที่ไม่สามารถลดจำนวนลงได้ ก็ให้จัดหาสถานที่ อย่าง หอประชุม นำมาใช้เป็นห้องเรียนขั่วคราวแทน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ในส่วนของพื้นที่สาธารณะที่ต้องใช้ร่วมกัน เช่น ทางเดินระหว่างห้อง ทางโรงเรียนจัดให้เป็นทางเดินแบบวันเวย์ คือไม่ให้มีการเดินสวนกันโดยเด็ดขาด เพื่อลดการสัมผัส จัดแบ่งคาบพักไม่ให้ตรงกัน จัดตารางการทำความสะอาดให้ถี่ขึ้น และคุณครูกับนักเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัย
ขณะเดียวกัน ก็ร่นระยะเวลาที่ต้องใช้ในโรงเรียนให้สั่นขึ้น คือจากที่เรียนเต็มวันก็เหลือครึ่งวัน แล้วทดแทนชั่วโมงเรียนในโรงเรียนที่หายไปด้วยชั้นเรียนออนไลน์ ซึ่งด้วยวิธีการนี้ จะช่วยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแต่ละชั้นปี สามารถแบ่งปันห้องเรียนในโรงเรียนร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม นักเรียน ครู หรือเจ้าหน้าที่ที่มีสุขภาพอ่อนแอ หรือมีสมาชิกในครอบครัวที่ต้องดูแล ก็สามารถติดตามการเรียนการสอนกับทางโรงเรียนพร้อมเพื่อนๆ ได้ ผ่านทางระบบออนไลน์
นอร์เวย์
สำหรับ ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเปิดโรงเรียนเป็นวันแรกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ค่อนข้างคล้ายคลึงกับมาตรการที่ทางเดนมาร์ก ประเทศเพื่อนบ้านนำมาใช้ แต่โรงเรียนนอร์เวย์ กำหนดจำนวนนักเรียนไว้ชัดเจนว่าไม่เกิน 15 คนต่อห้อง เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างสะดวก
มีการลดจำนวนเวลาที่ใช้ในห้องเรียน จัดตารางพักให้ไม่ตรงกัน และจัดโซนแบ่งแยกสนามเด็กเล่นเพื่อกำหนดให้เด็กใช้อย่างชัดเจน และออกข้อบังคับด้านสุขอนามัย ซึ่งรวมถึง การล้างมือ ให้เด็กปฎิบัติตาม
ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศส ดินแดนน้ำหอม ได้เปิดโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษา รวมถึง สถานรับเลี้ยงเด็ก ส่วนใหญ่ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ โรงเรียนสำหรับเด็กโตอายุระหว่าง 11-15 ปี หรือที่อยู่ในระดับวิทยาลัยตามหลักสูตรการศึกษาของฝรั่งเศส เปิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม และเปิดเฉพาะโรงเรียนซึ่งอยู่ที่พื้นที่โซนสีเขียวเท่านั้น
โดยพื้นที่โซนสีเขียว หมายถึง พื้นที่ที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ในระดับต่ำ หรือไม่เลวร้าย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฝรั่งเศสตั้งเป้าว่าจะเปิดโรงเรียนในระดับวิทยาลัยทั่วประเทศภายในเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ มาตรการหลักๆ ที่นำมาใช้ในช่วงเปิดโรงเรียนท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 นี้ ก็คือการลดจำนวนนักเรียนในชั้นเรียน และบังคับให้นักเรียนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ส่วนโรงเรียนที่ไม่แน่ใจในเรื่องความปลอดภัย จะยังคงปิดต่อไป และทำการเรียนการสอนส่วนใหญ่ผ่านระบบออนไลน์
เบลเยียม
ประเทศเบลเยียม เพิ่งจะเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม โดยเป็นการเปิดพร้อมกันหมดทั่วประเทศ และบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด ระบุกฎบัญญัติด้านสุขอนามัยอย่างชัดเจน และกำหนดนักเรียนในห้องเรียนไม่เกิน 10 คนต่อห้อง
นิวซีแลนด์
หวนกลับมาที่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในภูมิภาคเอเชีย นิวซีแลนด์ ประกาศเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ภายใต้การบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงการไม่อนุญาตให้พ่อแม่ผู้ปกครองมาส่งเด็กถึงหน้าห้องเรียน มีการกำหนดจุดรับ-ส่งอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน ก็จัดตำแหน่งที่นั่งในห้องเรียนแบบตายตัว เว้นระยะห่างตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ลดจำนวนเด็กนักเรียนในชั้น จัดตารางพักและการใช้พื้นที่สาธารณะให้แตกต่างกัน
ในส่วนของชั้นเรียนสำหรับเด็กเล็ก ทางโรงเรียนกำหนดให้ต้องมีการบันทึกประวัติและพฤติกรรมของเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อความสะดวกในการติดตามแกะรอยประวัติการมีปฎิสัมพันธ์ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อโควิด-19
เกาหลีใต้
ส่วนที่ เกาหลีใต้ ซึ่งเริ่มเปิดโรงเรียนเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักเรียนเกือบทั้งหมด ยังคงเลือกที่จะไม่มาโรงเรียน ทำให้ทางโรงเรียนทั่วประเทศตัดสินใจหันมาใช้ระบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ทั้งหมด ในช่วงภาคการศึกษาใหม่ โดยคุณครูจะติดต่อสื่อสารกับนักเรียนประจำชั้นของตนเอง ผ่านคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อบ และวีดีโอลิงก์ เป็นหลัก
ขณะที่ภาครัฐ เข้ามามีบทบาทในการจัดเตรียมอุปกรณ์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้แก่เด็กนักเรียนจากครอบครัวยากจน หรือในพื้นที่ชนบทห่างไกล ภายใต้ความร่วมมือกับภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นานาประเทศ
ด้านประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป (อียู) ต่างก็เตรียมทยอยเปิดโรงเรียนแล้วเช่นกัน โดยที่ในสเปน มีแผนจะเปิดโรงเรียนในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ โดยจะเปิดเฉพาะชั้นเรียนเพื่อการทบทวนเตรียมตัวสอบเป็นหลัก ส่วนชั้นเรียนอื่นๆ คาดว่าจะเปิดตามปกติได้ในเดือนกันยายน
ขณะที่เนเธอร์แลนด์ เตรียมเปิดโรงเรียนให้เด็กประถมกลับมาเรียนหนังสือได้ตามปกติในวันที่ 2 มิถุนายน ส่วนที่กรีซ เปิดโรงเรียนให้เฉพาะเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีสุดท้ายเท่านั้น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ภายใต้มาตรการพิเศษ ซึ่งรวมถึงการให้นักเรียนสลับวันกันเข้าห้องเรียน
เช่นเดียวกันกับ กรีซ ประเทศออสเตรีย อนุญาตให้โรงเรียนเปิดชั้นเรียนสำหรับเด็กมัธยมปีสุดท้ายเท่านั้น และ ที่ สวิตเซอร์แลนด์ เปิดโรงเรียนให้นักเรียนทุกชั้นปี กลับมาเรียนหนังสือเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ภายใต้การบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด
ในส่วนของโปรตุเกส นักเรียนบางส่วนสามารถเดินทางมาเรียนได้แล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังคงเข้าเรียนหนังสือจากทางออนไลน์เป็นหลัก
ด้านโรงเรียนในอิตาลีและไอร์แลนด์ ตัดสินใจปิดยาวไปจนถึงเดือนกันยายน เช่นเดียวกันกับรัสเซีย ที่ปิดยาวอย่างไม่มีกำหนด
อย่างไรก็ตาม มีเพียงโรงเรียนในสวีเดนเท่านั้นที่ไม่ปิดโรงเรียน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ที่มา :
How reopened schools in Denmark keep children safely apart
Coronavirus: What is a blended model of learning?
ภาพ : unsplash.com – Annie Spratt