เติมเต็มมื้ออาหารของน้อง : กสศ.ส่งมอบทุน โครงการ สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง
ให้แก่ ด.ช.สุวัฒน์ เหม็งพันธุ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนวัดเลาเต่า จ.นครปฐม
ห้องสี่เหลี่ยมแบ่งซอยเป็นล็อคๆ คล้ายห้องเช่ากรุด้วยไม้ไผ่ชั้นเดียวสลับผนังปูน คือสถานที่พักอาศัยของครอบครัว ด.ช.สุวัฒน์ เหม็งพันธุ์ หรือ “น้องน้ำ” นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนวัดเลาเต่า จ.นครปฐม
น้องได้รับการคัดเลือกจาก กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) รับทุนในโครงการ “สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง”
ณัฎฐา บุญวงษ์ คุณครูประจำโรงเรียนวัดเลาเต่า เล่าให้ฟังว่า ด้วยสภาพครอบครัวยากจนพิเศษ และน้องมีร่างกายตัวเล็กกว่านักเรียนชั้นประถมปีที่ 6 ทั่วไป หรือ มีตัวเล็กเท่ากับนักเรียนชั้นอนุบาล จึงคัดเลือกเพื่อขอรับทุนค่าอาหารกลางวันจากการที่โรงเรียนต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไปจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า
ในสถานการณ์ปกติ เมื่อเปิดเทอม โรงเรียนจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียนครบตามหลักโภชนาการ มีข้าวสวย แกง 2 อย่าง โดยทุกสัปดาห์จะมีขนมหวานสามวัน และผลไม้สามวัน สลับกัน
“น้องน้ำ รับประทานอาหารได้ครบทุกอย่าง แต่จะทานได้น้อยกว่าเพื่อนๆ บางครั้งเพื่อนในวัยเดียวกันต่อแถวขอรับประทานอีกชุด ส่วนน้องน้ำก็จะอิ่มแล้ว” ครูณัฎฐา เล่าพร้อมกับบอกว่า ไม่แน่ใจเขามีโรคประจำตัวหรือไม่ แต่ร่างกายไม่เติบโตตามวัย นอกจากนี้ ด.ช.สุวัฒน์ จัดอยู่ในกลุ่มเรียนรู้ได้ช้า อ่านไม่คล่อง โรงเรียนจึงให้เพื่อนเรียนรู้เร็วเป็นโค้ชคู่กับเขาอีกทางหนึ่ง
ด.ช.สุวัฒน์ มีพี่น้องร่วมกันสามคน เป็นบุตรคนกลาง ทั้งสามชีวิตอยู่กับยายโดยคุณพ่อและคุณแม่ต้องออกไปทำงานรับจ้าง ซึ่งครูณัฎฐาบอกด้วยว่า ตอนนี้ น้องคนสุดท้องเติบโตสูงเท่ากับ ด.ช.สุวัฒน์ แล้ว
อย่างไรก็ดี ในช่วงปิดเทอมยาวนาน คุณยายเปิดร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งทุกคนได้รับประทานอาหารตามปกติ แต่ทราบมาว่า น้องน้ำรับประทานได้น้อย
ทั้งนี้ ครอบครัวนักเรียน บริเวณโรงเรียนวัดเลาเต่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซนต์ ทำอาชีพรับจ้างในโรงงานละแวกใกล้เคียง เด็กจะอยู่บ้านกับผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับ ด.ช.สุวัฒน์ ซึ่งอยู่กับยาย
“เงินบริจาคสู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง โอนมาให้กับน้องน้ำ ซึ่งเป็นคนแรกของโรงเรียน ก็ได้นำไปซื้อข้าวปลาอาหารเพื่อให้ นักเรียนและครอบครัว ได้รับประทานอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะด้วยสภาพของครอบครัวนักเรียนหลายครัวเรือน บ้านยากจน มีคนแก่ต้องดูแล “ ครูณัฎฐา กล่าว
สำหรับ โรงเรียนวัดเลาเต่า เป็นโรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 170 คน ที่ผ่านมา มีภาคประชาสังคม ภาคเอกชน เข้ามาให้ความช่วยเหลือตามโอกาส เช่น การบูรณะซ่อมแซม ทาสีโรงเรียน มอบทุนการศึกษา
ยังมีเด็กยากจนพิเศษอีกจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากผลกระทบสถานศึกษาถูกเลื่อนกำหนดเปิดออกไป ซึ่งขณะนี้ มีประชาชน เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ได้ร่วมบริจาคเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย กสศ.ได้ดำเนินการโอนเงินบริจาคไปยังสถานศึกษาที่มีนักเรียนยากจนพิเศษทั่วประเทศ
พร้อมกันนั้น องค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคม ภาคเอกชน กำลังนำถุงยังชีพ ที่มีทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ส่งมอบถึงมือเด็กนักเรียนทุกคน
นี่คือ พลังที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกันต่อสู้วิกฤตเพื่อให้”น้องอิ่ม” ไปด้วยกัน
ติดตามความคืบหน้า
โครงการ สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง
ได้ที่ https://www.eef.or.th/donate-covid/
ร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องๆ ไปกับโครงการ
#สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม กับ กสศ.
ตั้งแต่วันนี้ – 18 มิถุนายน 2563
ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย
เลขที่ 172-0-30021-6
ชื่อบัญชี “กสศ.-มาตรา 6(6) – เงินบริจาค”
บริจาควันนี้ นำไปลดภาษีได้ 2 เท่า
สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-079-5475