บางครั้งการให้รางวัลก็อาจแก้ปัญหาเด็กขาดเรียนได้ชะงัด และเครื่องซักผ้ากำลังเป็นหนทางแก้ปัญหาสำหรับหลายโรงเรียนทั่วสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะในชุมชนรากหญ้า
“หากต้องเลือกระหว่างสวมเสื้อผ้าสกปรกมาโรงเรียนแล้วกลายเป็นตัวตลกของคนอื่นกับอยู่ที่บ้าน รับรองได้เลยว่าเด็กจะเลือกอยู่บ้านค่ะ” รีเบกกา นิโคลาส ครูใหญ่โรงเรียนมัธยมเฟิร์นครีกในเมืองหลุยส์วิลรัฐเคนตักกีเผย
นักเรียนราวร้อยละ 70 ของโรงเรียนเฟิร์นครีกมาจากครอบครัวรากหญ้า ทางโรงเรียนจึงได้จัด “ห้องซักรีด” เพื่อให้นักเรียนนำเสื้อผ้ามาซักและรับของบริจาค เช่น ถุงเท้าหรือน้ำหอมระงับกลิ่น นักเรียนทั้งหมดสามารถเข้าร่วมโครงการโดยมีครูและเจ้าหน้าที่แนะแนวทำหน้าที่คอยช่วยเหลือนักเรียนจะได้รับแจกจ่ายถุงตาข่ายพร้อมหมายเลขประจำตัว (ในอนาคตจะเปลี่ยนเป็นประเป๋าสะพาย) โดยสามารถวางถุงผ้าไว้ที่ห้องธุรการหรือในห้องซักรีดซึ่งจะมีผู้ช่วยคอยซักและพับผ้าที่ซักสะอาดแล้ว และผู้ช่วยยังทำหน้าที่ให้คำแนะนำวิธีการซักผ้าด้วย
“เราแค่พยายามขจัดกำแพงที่ขัดขวางการมาโรงเรียนให้มากที่สุดค่ะ” ดร.นิโคลัสเผย สถิติของทางการสหรัฐรายงานว่านักเรียนราวหนึ่งในหกมีปัญหาขาดเรียนเรื้อรังระหว่างปีการศึกษา 2015-16 โดยขาดเรียนนานกว่า 15 วันด้วยสาเหตุต่างๆ
ข้อมูลจากหลายการศึกษาชี้ว่าการขาดเรียนสามารถส่งผลกระทบต่อทักษะการอ่าน และอาจพาให้นักเรียนที่อายุมากกว่าสอบตกจนเลิกเรียนไปในที่สุด
เฮดี ชาง กรรมการบริหารองค์กรแอทเทนแดนซ์เวิร์คอันเป็นหน่วยงานไม่แสวงผลกำไรเพื่อลดปัญหาการขาดงานเรื้อรังชี้ว่า ปัจจุบันโรงเรียนรัฐยังคงประเมินอัตราการขาดเรียนจากการจดบันทึกตัวเลขการหนีเรียนหรือหยุดเรียนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า รวมถึงค่าเฉลี่ยจำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนในแต่ละวัน และที่ผ่านมาโรงเรียนมักทำโทษนักเรียนที่ขาดเรียนโดยไม่มีเหตุผล
“ประเด็นหลักของการหนีโรงเรียนนั้นอยู่ที่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันกับการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุผลที่ทำให้นักเรียนเลือกอยู่บ้านค่ะ” ชางเผย
การผ่านกฎหมายนักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จเมื่อปี 2558 และการใช้ระเบียนอิเลคทรอนิกทำให้การขาดเรียนเรื้อรังได้รับความสนใจอย่างจริงจัง ชางเผยว่าพอเข้าสู่ปี 2560 หลายรัฐก็กำหนดให้การขาดเรียนเรื้อรังเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับประเมินความรับผิดชอบของแต่ละโรงเรียน
“นับจากนี้ข้อมูลการขาดเรียนจะกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าเราจำเป็นต้องลงทุนด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ แก้ไขปัญหา และทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ค่ะ”
เดราลด์ เดวิส รองผู้กำกับการกลุ่มโรงเรียนรัฐเมืองแคนซัสซิตีรัฐมอนตานาเผยว่า เมื่อสองปีก่อนพี่เลี้ยงในโครงการช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาขาดเรียนเป็นประจำได้เตือนครูใหญ่โรงเรียนประถมศึกษาเบนจามินแบเนเคอร์เอเลเมนทารีในเมืองแคนซัสซิตีว่าเสื้อผ้าสกปรกกำลังเป็นสาเหตุให้นักเรียนไม่อยากมาโรงเรียน
ดร.เดวิสกล่าวว่าในช่วงนั้นพบว่ามีนักเรียนเพียงร้อยละ 46 ที่มีอัตราการเข้าเรียนมากกว่าร้อยละ 90 แต่หลังจากที่โรงเรียนได้รับทุนสนับสนุนจัดซื้อเครื่องซักผ้าจากองค์กรยูไนเต็ดเวย์ก็ส่งผลให้ตัวเลขนักเรียนที่เข้าเรียนถึงเกณฑ์ดังกล่าวพุ่งขึ้นมาที่ร้อยละ 84 และว่า ขณะนี้มีโรงเรียนประถมศึกษาอย่างน้อย 5 แห่งที่ติดตั้งเครื่องซักผ้าเพื่อเป็นก้าวแรกในการช่วยเหลือให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายด้านการศึกษา
“ขอให้เด็กมาเรียนเถอะครับ” เขากล่าว “ปัญหาที่เหลือเดี๋ยวก็จัดการได้”
ที่โรงเรียนประถมศึกษาดูลเอเลเมนทารีในนครเดนเวอร์นั้นนักเรียนเกือบทั้งหมดได้รับการอุดหนุนค่าอาหารกลางวันและอาหารเช้า บางครั้งครูก็ต้องยื่นมือช่วยจ่ายค่ายาหรือค่าไฟฟ้าสำหรับครอบครัวยากไร้ ครูบางคนถึงกับต้องนำเสื้อผ้าเด็กกลับไปซักให้ที่บ้าน
“มีหลายบ้านล่ะครับที่ห่วงเรื่องหน้าตาของตัวเอง” โจ แคริแกน ครูใหญ่อธิบาย “เขาไม่อยากให้ลูกมาโรงเรียนเพราะไม่มีเสื้อผ้าสะอาดให้ลูกใส่”
โรงเรียนดูลเอเลเมนทารีได้รับทุน 10,000 ดอลลาร์สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าโดยการสนับสนุนจากบริษัทเวิร์ลพูลและองค์กรทีชฟอร์อะเมริกาซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ให้โรงเรียน 72 แห่งใน 13 เมือง
ครูแคริแกนเผยว่าโรงเรียนเคยมีเครื่องซักผ้าติดตั้งอยู่ในห้องที่บรรยากาศคล้ายถ้ำใต้ดิน แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่ก็ได้ติดตั้งอยู่ในห้องสว่างไสวใกล้กับโรงอาหาร ซึ่งนักเรียนสามารถเข้ามาศึกษาวิธีตวงผงซักฟอกและการดูแลเสื้อผ้า โดยเสริมว่านักเรียนที่มีภาวะบกพร่องทางปัญหาซึ่งต้องเรียนทักษะการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน (เช่น การจับจ่ายซื้อขายและใช้เงิน) ก็เข้ามาเรียนการซักผ้าด้วยเช่นกัน
ครูแคริแกนยอมรับว่าโครงการนี้ยังเพิ่งตั้งไข่ อย่างไรก็ดีคณะผู้บริหารร่วมกับนักจิตวิทยาก็กำลังขะมักขเม้นคัดกรองนักเรียนที่น่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้
ครูใหญ่อักบาร์ คุกเปิดเผยว่าโครงการซักรีดที่โรงเรียนมัธยมเวสต์ไซด์ที่เมืองเนวาร์คได้เปลี่ยนวัฒนธรรมของโรงเรียนและลดปัญหาการกลั่นแกล้ง ครูใหญ่คุกใช้เงิน 20,000 ดอลลาร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนท้องถิ่นพลิกโฉมห้องนักกีฬาเก่าเป็นห้องซักรีดก่อนจะโด่งดังเป็นที่รู้จักทั้งในฟากการเมืองและบันเทิง
อีกด้านหนึ่งที่สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมในรัฐเคนตักกีเรี่ยไรเงินได้ราว 1,000 ดอลลาร์สำหรับจัดซื้อเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้ารวมถึงระบบน้ำประปาและระบายอากาศในห้องซักรีดสำหรับนักเรียน
ภายในห้องตกแต่งด้วยถ้อยคำสร้างแรงบันดาลใจ เช่น “สู้ต่อไปคนหัวใจแกร่ง” นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าซึ่งในอีกไม่นานจะเปิดรับบริจาคชุดมือสองสำหรับใส่ในงานเต้นรำฉลองจบการศึกษา
“เราต้องการให้นักเรียนไม่รู้สึกอายที่ได้รับความช่วยเหลือค่ะ” ดร.นิโคลัสกล่าว “เพื่อที่นักเรียนจะได้รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ในชั้นเรียน”
“ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ใช่เรื่องหนักหนาค่ะ” ดร.นิโคลัสย้ำ
แม้มีเสียงวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่าโรงเรียนทำเกินหน้าที่ แต่กระแสตอบรับส่วนใหญ่ก็ออกมาในเชิงบวก
“ชาวบ้านในละแวกนี้มาช่วยกันบริจาคผงซักฟอกค่ะ” ดร.นิโคลัสเผย “อาจเป็นเพราะวิธีนี้เห็นผลที่จับต้องได้ ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้เข้ามาช่วยและพวกเขาก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเพื่อช่วยเหลือนักเรียนค่ะ”
ที่มาข่าว : The New York Times