ทุกครั้งที่ออกตระเวนเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียนของครูทั่วประเทศกว่า 4 แสนคน ในสังกัด สพฐ. อปท. ตชด. เกิดเรื่องราวระหว่างทางมากมายหลายอย่าง แต่เป็นเรื่องราวดี ๆ สร้างความรู้สึกอิ่มเอมใจกับครูเหล่านี้เสียสละเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ หอบหิ้วโอกาสเข้าไปยังพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ในฐานะเรือจ้างยังคงแจวเรือต่อไปทุกเส้นทาง ปลายทางมีเด็กจำนวนมหาศาลรอคอยความหวัง ที่ครูทุกคนจะเข้ามาเติมแสงสว่าง โดยเฉพาะโอกาสทางการศึกษา
เหมือนเช่น ด.ญ.เจนนี่ ยอดพรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวังแคน จังหวัดขอนแก่น ผู้รอคอยความหวังโอกาสการศึกษา ด้วยพื้นฐานครอบครัวยากจนกลายเป็นอุปสรรคทางการเรียน นั่นหมายถึงอนาคตของเด็ก 1 คน ที่กำลังเติบโตและอยู่ในช่วงวัยเรียนอาจริบหรี่ลงอย่างไร้ค่า ทั้งที่ความจริงสิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
สภาพเพิงพักเก่าๆหลังคามุงด้วยหญ้าแฝก บางจุดมีช่องโหว่เบ้อเร่อ ผนังบ้านทำจากป้ายไวนิลโฆษณาถูกดัดแปลงเป็นวัสดุประกอบพอบังแดดบังลมไร้ความแข็งแรง ถึงสภาพบ้านย่ำแย่แค่ไหนโทรมแค่ไหน อย่างน้อยเกือบ 10 ชีวิต ถูกอัดอยู่ในเพิงหลังนี้
พรนภา กมลปรีดี ครูโรงเรียนบ้านวังแคน จังหวัดขอนแก่น บอกว่า ด.ญ.เจนนี่ ยอดพรม ตอนนี้อายุ 9 ปีเป็นนักเรียนทุนเสมอภาค ของ กสศ. ครอบครัวของน้องพ่อแม่แยกทางกันนานแล้ว ต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ทิ้งเจนนี่ไว้กับตายายตั้งแต่น้องเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2
“สิ่งที่กังวลตอนนี้น้องเจนนี่กำลังโต และเป็นผู้หญิงน่าตาดี จึงห่วงเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะกลางคืน เพราะบ้านไม่ได้แข็งแรงมิดชิด แถมหลังคาบ้านยังรั่วเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ฝนตกแต่ละครั้งต้องทนมองอยู่เช่นนั้น ไม่มีเงินทองไปซ่อมแซมเปลี่ยนใหม่ ทุกคนจึงยอมรับสภาพชีวิตที่เกิดขึ้น” ครูพรนภา กล่าว
ตอนนี้เจนนี่อยากได้หลังคาบ้านใหม่ ฝนตกมาทีไรสร้างความลำบากให้กับครอบครัวตลอดเวลา บางครั้งข้าวของเปียกปอนจากเม็ดฝนที่รุมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ครอบครัวเจนนี่ต้องจำนนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ได้แต่หวังรอเวลาฝนหยุดเท่านั้น
“รายได้ของยายและตามาจากการเก็บผัก เก็บหอยในแม่น้ำชีไปขายตามตลาด รายได้ไม่แน่นอน เฉลี่ย 200-300 บาท แต่ไม่ได้ทำทุกวันเนื่องจากร่างกายอาจไม่เอื้อต่อการทำงาน โดยเฉพาะยายในวัย 56 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัวตั้งแต่ช่วงล่างลงไปนานกว่า 7 ปีแล้ว ตาจำต้องรับเป็นเสาหลักสำคัญหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ประคองความฝันของเด็กคนนี้ที่อยากเป็นครูสอนหนังสือในอนาคต” ครูพรนภา ฉายภาพ
ถึงฐานะครอบครัวลำบาก แต่เจนนี่ยังมานะกตัญญูตื่นมาหุงข้าว ดูแลยายทุกวัน ช่วยเหลืองานบ้านแบ่งเบาภาระทุกอย่างพอที่เด็กตัวเล็กๆจะทำได้ ช่วงวันหยุดเจนนี่จะตามไปช่วยยายขายของที่ตลาด เจนนี่ได้เงินไปโรงเรียนเพียงวันละ 5 บาท ถ้าวันไหนไม่มีเงินเท่ากับเจนนี่ไม่มีเงินไปโรงเรียน
ครูพรนภา ยังเล่าเสริมว่า เจนนี่เป็นเด็กนักเรียนที่มีความเป็นจิตอาสา มีผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดี ลายมือสวย เป็นคนช่างพูด ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เจนนี่หวังอยากเรียนในระดับที่สูงขึ้น แต่ด้วยครอบครัวมีฐานะยากจน ยายของเจนนี่จึงคิดว่าคงให้เรียนจบแค่ในระดับชั้นประถมศึกษา 6 แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว