กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้ทยอยส่งมอบเงินบริจาคในโครงการ ”สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง” ไปถึงกลุ่มนักเรียนยากจนพิเศษทั่วประเทศ ขณะที่ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชน ยังคงให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะมาในรูปของเงินบริจาค หรือเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเติมเต็มมื้ออาหารในช่วงปิดเทอมยาวนานอย่างต่อเนื่อง
แต่ละพื้นที่มีการบริหารจัดการเงินบริจาคและมีเสียงสะท้อนกลับมาอย่างไร
“สัญญาจากต้นกล้า”
กสศ. ได้รับจดหมายน้อยจากนักเรียนคนหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “ต้นกล้า” บรรจงเขียนบอกเล่าถึงการได้รับเงินทุนอุดหนุนเพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายครอบครัวพร้อมกับแสดงความขอบคุณ
”ต้นกล้า” ถ่ายทอดความรู้สึกระหว่างบรรทัดไว้อย่างมีความหมายและกินใจ
“ ผมสัญญาว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ผมจะเป็นเด็กขยันเรียน เชื่อฟังพ่อแม่และคุณครู ”
คำสัญญาของ“ต้นกล้า” ทำให้ กสศ.และทุกภาคส่วนยังคงเดินหน้าช่วยกันเติมเต็มความฝันของน้องๆให้ประสบความสำเร็จทางการศึกษาต่อไป
“จากที่ได้ไปร่วมมอบของด้วยตัวเอง เด็กๆ และผู้ปกครอง ดีใจมากที่มีคนเอาของไปช่วยเขา”
เสียงสะท้อนจาก ผอ.รร.รัฐราษฎร์บำรุง
ที่โรงเรียนรัฐราษฎร์บำรุง จังหวัดแพร่ อนุสรณ์ พรมรังกา ผู้อำนวยการบอกกับเราว่า หลังจากได้รับแจ้งเรื่องมาตการช่วยเหลือนักเรียนในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 จากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นจำนวน 5 คน คนละ 600 บาท ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร และไปสอบถามราคาของเพื่อมาพิจารณาว่าจะซื้ออะไรบ้างเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กมากที่สุด
ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4 ชุด คือ ชุดจัดซื้อ ชุดตรวจรับ ชุดส่งมอบและชุดรายงานผล โดยเมื่อพิจารณาแล้วคณะกรรมการชุดจัดซื้อได้นำเงินที่ได้ไปซื้อเป็นข้าวสาร ปลากระป๋อง ไข่ น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตามมูลค่าราคา 600 บาท ต่อหัว และนำไปแจกให้กับนักเรียนทั้ง 5 คนถึงที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย
“จากที่ได้ไปร่วมมอบของด้วยตัวเอง เด็กๆ และผู้ปกครอง ดีใจมากที่มีคนเอาของไปช่วยเขา ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะประกอบอาชีพรับจ้างแต่ช่วงนี้ได้รับผลกระทบหนักมาก ไม่ได้ไปรับจ้างที่ไหน ไม่มีรายได้ บางบ้านอยู่กันสองคนแม่ลูกบอกว่าของที่ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นเดือน ก่อนหน้านี้ต้องกินอยู่กันอย่างประหยัด ช่วงไม่มีรายได้ บางครอบครัวต้องเอาของไปขายไปจำนำบ้าง พอได้รับการช่วยเหลือทำให้ชีวิตสบายขึ้น” ผอ.รร.รัฐราษฎร์บำรุง กล่าว
“การที่นักเรียนรับทุนครั้งนี้ถือว่าได้ประโยชน์มาก”
“ครูนิตย์ ” คุณครูประจำโรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์
โรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์ จ.นครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนในฐานข้อมูลระบบ iSEE ของ กสศ. ได้รับพิจารณามอบทุนช่วยเหลือค่าอาหารในสถานการณ์โควิด จำนวน 16 ทุน
“ครูนิตย์” เนตรยา เกยพุดซา คุณครูประจำโรงเรียนตำบลบ้านโพธิ์ ผู้รับผิดชอบดูแลทุนของกสศ. เล่าว่า โรงเรียนจะเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินตามโครงการนี้ให้กับนักเรียนที่ประสบปัญหา โดยมีชื่อผู้ถือครองบัญชี ประกอบด้วยผู้อำนวยการโรงเรียน “ครูนิตย์” ที่รับผิดชอบโครงการ และคุณครูอีกท่านหนึ่ง
เมื่อเข้าไปตรวจสอบข้อมูลระบบปัจจัยพื้นฐานของนักเรียนยากจน โดยมีเงินจากกองทุนกสศ. โอนเข้ามาแล้ว จะทำเรื่องเสนอ ผอ. เพื่อขออนุมัติเบิกเงิน เวลาไปถอนเงินจะใช้ชื่อสองในสามที่ถือครองบัญชี พร้อมกับติดต่อผู้ปกครองนักเรียนมารับเงินที่โรงเรียน ทั้งนี้ โรงเรียนมีการบันทึกข้อมูลหลักฐาน ภาพถ่าย นักเรียน สำเนาบัตรประชาชน ลายเซ็นผู้ปกครอง เก็บไว้เป็นหลักฐาน
“ครูนิตย์” บอกว่า ในสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้โรงเรียนปิดเทอมยาวนานออกไป เด็กนักเรียนไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียน ผู้ปกครองมีภาระเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ค่าเช่าบ้าน ค่าไฟฟ้าน้ำประปา จากสถานการณ์ทำให้หลายครอบครัวประสบปัญหาจากการขาดรายได้ พ่อแม่ต้องไปหางานทำนอกเมือง นักเรียนก็อยู่กับตายาย
ฉนั้น การที่นักเรียนรับทุนครั้งนี้ถือว่าได้ประโยชน์มาก ผู้ปกครองนักเรียน ได้นำไปซื้อปัจจัยพื้นฐานการบริโภค ต้องขอบคุณ กสศ. มา ณ โอกาสนี้ด้วย
ติดตามความคืบหน้า
โครงการ สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม คนละมือเพื่อมื้อน้อง
ได้ที่ https://www.eef.or.th/donate-covid/
ร่วมบริจาคช่วยเหลือน้องๆ ไปกับโครงการ
#สู้วิกฤตให้น้องอิ่ม กับ กสศ.
ตั้งแต่วันนี้ – 18 มิถุนายน 2563
ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย
เลขที่ 172-0-30021-6
ชื่อบัญชี “กสศ.-มาตรา 6(6) – เงินบริจาค”
บริจาควันนี้ นำไปลดภาษีได้ 2 เท่า