iSEE คือ ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งเปิดให้ทุกคนสามารถใช้งานได้ฟรี โดย กสศ.ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Information System for Equitable Education : iSEE) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG Data) รายบุคคล ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสมากกว่า 4 ล้านคน
โดยเชื่อมโยงข้อมูลเด็กและครอบครัวกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ 6 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงงาน และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อที่จะช่วยให้ “มองเห็น” สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนเป็นเครื่องมือให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ในอนาคต
รวมถึงการทำ Data Visualization ให้เห็นภาพที่เข้าใจง่ายพร้อมทั้งยังสามารถดาวน์โหลดเป็นภาพนำเสนอได้ทันทีอีกด้วย
และต่อจากนี้คือตัวเลขสถิติที่น่าสนใจของ Big Data จาก iSEE ที่เราอยากนำเสนอให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ กลายเป็นจังหวัด อันดับ 1 ที่มีเด็กนักเรียนนอกระบบมากที่สุดกว่าสามแสนคน รองลงมาคือจังหวัดนครราชสีมาและตาก ที่มีเด็กนอกระบบจำนวน 74,271 และ 68,456 ตามลำดับ แม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองหลวง แต่ก็เป็นจังหวัดที่มีจำนวนเด็กนอกระบบการศึกษามากที่สุดในประเทศ
34% คือจำนวนนักเรียนที่หายไปจากระบบการศึกษาหลังจบ ม.3 ของปีการศึกษา 2561 เมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนชั้น ม.4 ของปีการศึกษา 2562 จากข้อมูลของ iSEE จะทำให้เห็นจุดสำคัญว่า ระหว่างระดับ ม.3 ขึ้น ม.4 เป็นจุดที่เด็กหายไปจากระบบการศึกษา
74,271 คน คือเด็กนอกระบบการศึกษา เฉพาะแค่ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักเรียนยากจนพิเศษมากเป็นอันดับสองของประเทศ
มีโรงเรียน 575 แห่ง ที่นักเรียนทุกคนในโรงเรียนเป็นนักเรียนยากจนพิเศษ 100% หรือก็คือนักเรียนทุกคนในโรงเรียนนั้นยากจนพิเศษทุกคน
มี 78 ตำบลในประเทศไทย ที่ไม่มีโรงเรียนประจำตำบล ซึ่งทำให้เด็กๆ ต้องเดินทางข้ามตำบลเพื่อไปเรียนหนังสือ ทำให้การเดินทาง ระยะทาง หรือการขนส่งเป็นอุปสรรคหนึ่งในการเข้าถึงการศึกษา โดยมีบางตำบลที่มีจำนวนเด็กนอกระบบการศึกษากว่าสี่ร้อยคน
1,205 บาท คือรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเฉลี่ย ของครอบครัวนักเรียนยากจนพิเศษ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงทุกปี ซึ่งมีแนวโน้มน่าเป็นห่วงมากทีเดียว โดยลดลงจาก ปีก่อน
2/2560 ที่ 1,289 บาท
2/2561 ที่ 1,249 บาท
1/2562 ที่ 1,205 บาท
*ข้อมูลปัจจุบันยังไม่รวมข้อมูลในช่วงที่มี วิกฤต COVID-19
255 คือจำนวนของโรงเรียน ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำให้การเรียนการสอนออนไลน์ของโรงเรียนและการเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตทั้งหมดยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
มีโรงเรียน 1,711 แห่ง ที่มีปัญหาเสียงจากการจราจร ในแต่ละโรงเรียนต่างก็มีการพบเจอกับปัญหาในแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป ซึ่งปัญหาเหล่านั้นล้วนเกิดมาจากสภาพแวดล้อมในบริเวณของโรงเรียนทั้งสิ้น
ข้อมูลนี้ทำให้เห็นปัญหาที่อาจไม่เคยนึกถึงมาก่อนว่าเสียงของการจราจรจะเป็นปัญหากับโรงเรียนจำนวนมากขนาดนี้
นอกจากนี้ยังมี
โรงเรียน 1,574 แห่งที่มี ปัญหาอากาศจากเคมีการเกษตร
โรงเรียน 1,484 แห่งที่มี ปัญหาอากาศจากโรงงาน/สารเคมี
โรงเรียน 1,144 แห่งที่มี ปัญหาอากาศจากขยะ/สิ่งปฏิกูล
15 โรงเรียน ในประเทศไทยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้ว่าจะเป็นสิ่งพื้นฐานมาก ๆ อย่างกระแสไฟฟ้า แต่ว่าก็ยังมีโรงเรียนอีก 15 แห่ง ที่ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าถึง ดูข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่นี่
ไม่ว่าคุณจะเป็น
– หน่วยงานรัฐ / เอกชน
– บุคลากรในแวดวงการศึกษา
– นักการตลาดที่ต้องการหาข้อมูลเพื่อทำแคมเปญ CSR
– Startup
– นักเคลื่อนไหวทางสังคม, กิจการเพื่อสังคม
– ผู้ทำวิจัย
– บุคคลทั่วไปที่สนใจปัญหาเรื่องการศึกษา
ฯลฯ
ก็สามารถเข้ามาใช้งานได้ทุกคน ผ่านเว็บไซต์ iSEE ที่เว็บไซต์ https://isee.eef.or.th/
กสศ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือ ยกระดับการศึกษาไทยไปด้วยกันกับคุณทุกคน