บัวลอยจากความทรงจำถึงคุณย่า จุดประกายความหวังในวันที่มองไม่เห็นทาง
เสริมทักษะอาชีพเยาวชนนอกระบบสู้วิกฤตโควิด-19

บัวลอยจากความทรงจำถึงคุณย่า จุดประกายความหวังในวันที่มองไม่เห็นทาง

  • จบ ป.6 ตัดสินใจไม่เรียนต่อ เพราะรู้ว่าไม่ใช่ทาง เบนเข็มช่วยย่าขายขนม ลงเรียน กศน. หารายได้ทุกทางเลี้ยงตัว
  • อายุ 16 หันหลังให้การศึกษาอีกครั้ง เข้ากรุงเทพ ฯ รับจ้างขายก๋วยเตี๋ยว โดนโกงค่าจ้าง ไปรับจ้างสับไก่หาค่ารถกลับบ้าน
  • ลุกขึ้นอีกครั้ง สมัครทำงานร้านอาหาร ได้ค่าแรงรวมทิปต่อวันมากพอให้คิดว่าชีวิตกำลังไปด้วยดี
  • โควิด-19 มาถึง กิจการร้านซบเซาต่อเนื่อง ยาวนาน แม้ไม่ถูกเลิกจ้าง แต่ก็แทบไม่เหลือความหวังให้คิดถึงอนาคต…

เรื่องราวกว่าครึ่งชีวิต ที่ย่นย่อเหลือเพียง 4 บรรทัด ของ ‘ไอซ์’ บุรัสกร พานอิน เยาวชนจาก จังหวัดราชบุรี ที่ใส่ความมุ่งมั่นเกินร้อยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ หากเหมือนโชคชะตาจงใจโยนแต่โจทย์ยากเข็ญ ให้เธอพิสูจน์ความแข็งแกร่งของหัวใจตัวเอง

ถึงวันนี้ แม้สถานการณ์โรคระบาดยังไม่พ้นผ่านไป แต่เธอไม่ขอรอหรือยอมจำนน ด้วยกำลังใจที่ไม่เคยเหือดหาย ‘ไอซ์’ กำลังกลับมายืนหยัดอีกครั้ง หลังถูกค้นพบโดยโครงการสนับสนุนการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา เครือข่ายเชิงพื้นที่: ภาคตะวันตกเขตตะนาวศรี กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ลงพื้นที่ค้นหาเยาวชนนอกระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ก่อนได้พูดคุยกับไอซ์ เพื่อร่วมสานฝัน ผลักดันอนาคตของเธอ ให้กลับมีประกายความหวังอีกครั้ง

“เรารู้ตัวว่าเรียนไม่เก่ง สู้คนอื่นไม่ได้ จบ ป.6 ก็คิดแล้วว่าจะมาทำขนมกับย่า เก็บเกี่ยววิชาจากเขา เรื่องวุฒิก็ไปเรียน กศน. เอา พอไม่ไปโรงเรียนแล้วเราก็ตั้งใจจะทำงานทุกอย่างที่เขาจ้าง จะหารายได้ให้มากที่สุด แต่เพราะเราเด็กมาก ทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน สุดท้ายก็ออกมาไม่ดีสักอย่าง” ไอซ์ย้อนเรื่องราวในอดีต

“ทั้งเข็ด ทั้งกลัว”

ไอซ์เล่าว่าพอเริ่มโต มีเพื่อนชวนไปทำงานในกรุงเทพ ฯ เธอก็ไป แต่หลังผ่านประสบการณ์จากเมืองกรุง ฯ เธอก็ไม่คิดจะไปทำงานไกลบ้านอีก จึงตัดสินใจไปทำงานร้านอาหารที่อำเภอจอมบึง ทำจนมีรายได้มากพอเช่าหอพักอยู่ลำพัง แต่พอเกิดสถานการณ์โรคระบาด วงรอบของความขัดสนก็วนกลับมา

“ตอนนั้นร้านกำลังคึกคัก ลูกค้าเต็มทุกวัน เราได้ค่าแรงวันละ 150 รวมทิปอีกไม่น้อย รู้สึกว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น แต่พริบตาเดียวที่โควิด-19 มาถึง ร้านต้องปิด พอเปิดก็ไม่มีคน พนักงานหลายคนถูกเลิกจ้าง ตัวเรายังได้ทำต่อแต่ก็เหลือแค่ค่าจ้างวันละ 150 ซึ่งมันไม่พอให้มีความหวังกับอะไรเลย”

‘บัวลอยของย่า’ มรดกที่คงเหลือ

ในจังหวะชีวิตที่พุ่งขึ้นและดิ่งลงราวรถไฟเหาะตีลังกาของไอซ์ เธอบอกว่าการได้เจอทีมพี่เลี้ยงโครงการ ฯ คือช่วงเวลาที่เธอได้ทบทวนถึงสิ่งที่มีในตัวเอง จนได้ย้อนกลับไปคิดถึงขนมของย่าที่ซึมซับมาตั้งแต่วัยเด็ก

“สิ่งที่ย่าทิ้งไว้ในตัวเรา อาจเป็นทางรอดของวันนี้” ไอซ์บอก

เมื่อไตร่ตรองจนแน่ใจ ไอซ์เริ่มเดินหน้านำมรดกที่ย่าทิ้งไว้ให้ มาสร้างเส้นทางอาชีพของเธออีกครั้ง พร้อมแรงสนับสนุนจากโครงการ ฯ โดยมีทีมพี่เลี้ยงคอยดูแลให้เธอได้เติมความรู้รอบด้าน มีร้านอาหารที่เธอทำงานที่ยินดีสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ จากนั้น ไอซ์ฝึกฝนพัฒนาฝีมือจนเข้าที่เข้าทาง ก่อนเริ่มโปรเจคต์ขายขนมบัวลอยเป็นอาชีพเสริม ด้วยเงินทุนจากโครงการ ฯ จำนวน 3,000 บาท รับออเดอร์ลูกค้าผ่านทางเฟสบุค

จนวันนี้ ขนมบัวลอยของไอซ์เริ่มเป็นที่รู้จัก และช่วยให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งตั้งใจจะพัฒนาฝีมือพร้อมกับขยายเมนูขนมออกไปอีก

“สูตรที่ย่าเคยทำอยู่กับตัวเรามาตลอด เราเชื่อว่าทำได้ ก็เริ่มจากเอาสิ่งที่มีตรงนี้มาพยายามพัฒนาต่อ แล้วเราโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ ฯ จากร้านที่ทำงานด้วย พอมีทุน มีเครื่องมือพร้อม ที่เหลือคือลงมือทำ

“ชีวิตที่ผ่านมาสอนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ จากวันแรกขายไม่ได้เลย แต่เราไม่ท้อ คติของเราคือทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด พอเริ่มมีลูกค้าเข้ามา เขาชอบขนมเราเขาก็บอกต่อ ๆ กันไป จนเป็นที่รู้จัก มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เริ่มมีกำไรแล้ว คิดว่าจะสะสมไว้เพื่อทำขนมชนิดอื่น ๆ เช่น ตะโก้ ขนมถ้วย กล้วยบวชชี เพราะเรายังมีสูตรขนมอีกหลายชนิดในความทรงจำ ที่ย่าให้ไว้”

แม้วันนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่าเส้นทางข้างหน้าของน้องไอซ์จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าด้วยความเข้มแข็งที่หล่อหลอมขึ้นจากประสบการณ์ชีวิต ผสานกับทักษะทำขนมที่สั่งสมแต่เยาว์วัย วันหนึ่งไอซ์จะสามารถพาตัวเองไปถึงจุดที่ตั้งใจไว้ได้

นี่คือหนึ่งในเยาวชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก โครงการสนับสนุนการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา รวมถึงเครือข่ายสถานประกอบการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายปลายทางให้น้อง ๆ เยาวชนนอกระบบการศึกษาได้ค้นพบเส้นทางของตัวเอง พัฒนาทักษะไปสู่อาชีพที่ยั่งยืน ด้วยการมอบโอกาส และทางเลือกของการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทชีวิต