สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริว่า
“…การศึกษาเป็นปัจจัยหลักในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ตลอดจนความประพฤติและคุณงามความดีของบุคคล ให้บุคคลดำรงตนอยู่ในสังคมและในโลกได้อย่างมั่นคงและมีความสงบร่มเย็นได้ แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วเพียงใดก็ตาม…”
ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ พ.ศ. 2523 โดยเริ่มจากโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชน และให้ความสำคัญตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียนไปจนถึงการศึกษาขั้นสูง ระยะที่ทรงงานการศึกษามากว่า 40 ปี จึงทรงเชี่ยวชาญด้านการศึกษาอย่างมาก จึงทรงได้รับการเทิดพระเกียรติในฐานะ “เจ้าฟ้านักการศึกษา”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพะเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นนักปฏิบัติ ลงมือทำและศึกษาทฤษฎีมาประกอบกัน แนวทางการพัฒนาการศึกษาของพระองค์คือต้องเติมเต็มตามศักยภาพแต่ละบุคคล และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน ทรงใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการเรียนรู้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่ห่างไกล ผู้พิการ ผู้ป่วย ผู้ต้องขัง และสามเณร ฯลฯ ซึ่งเป็นแนวทางที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ก็ได้ประกาศเป็นปฏิญญา “การศึกษาเพื่อปวงชน” หรือ Education for All อีกด้วย
ผลงานด้านการศึกษาของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ปัจจุบันโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีทั้งโครงการในประเทศไทยและโครงการความร่วมมือกับต่างประเทศ นอกจากโครงการช่วยเหลือเด็กเยาวชนไทยจำนวนมากแล้ว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนได้ขยายผลเพื่อเป็นตัวอย่างและต้นแบบการพัฒนาชีวิตเด็กนักเรียนและชุมชนไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียรวม 10 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มองโกเลีย ภูฏาน บังกลาเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และติมอร์-เลสเต นานาประเทศต่างชื่นชมและยอมรับในพระปรีชาสามารถและพระเมตตากรุณา วิธีการทรงงานด้วยความพากเพียรและพัฒนางานอย่างต่อเนื่องจนเกิดสัมฤทธิผลเป็นที่ประจักษ์ว่าโครงการพระราชดำรินี้ก่อให้เกิดความเสมอภาคและสร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษาและการพัฒนาของเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ผลงานของพระองค์จึงเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ทรงได้รับการทูลเกล้าถวายรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัล เช่น
ปี 2548 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกทูลเกล้าถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อยด้วยการศึกษาและการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม
ปี 2561 กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ทูลเกล้าถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด (Life-Time Achievement Award) ด้วยทรงอุทิศพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานับปการเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและเยาวชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กด้อยโอกาส
ปี 2565 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ทูลเกล้าถวายตำแหน่ง ทูตพิเศษด้านการขจัดความอดอยากหิวโหย (FAO Special Ambassador for Zero Hunger) ประจำปี 2565-2567 และยกย่องการทรงงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความหิวโหยของผู้ยากไร้ในไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยทรงให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และแก้ไขปัญหาความหิวโหยของผู้ยากไร้ในไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมาโดยตลอด รวมทั้งทรงสนับสนุนงานด้านการปรับเปลี่ยนพลิกโฉมระบบอาหารและเกษตรที่นำไปสู่การพัฒนาการผลิตที่ดีขึ้น โภชนาการที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของทุกคน