สมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน (สวตท.) หรือ Association of Capital Market Academy (ACMA) จัดกิจกรรม ‘ACMA RUN 2024’ วิ่งระดมทุนเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนในโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567
“ผลลัพธ์ของการให้โอกาสทางการศึกษามีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นและไม่มีวันน้อยลง”
คุณสินีนุช โกกนุทาภรณ์ ประธานฝ่ายกิจกรรม Health & Wellness & Mindfulness สมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน (สวตท.) เล่าถึงที่มาการจัดกิจกรรม ACMA RUN 2024 ว่า “จะพัฒนาชาติได้ต้องพัฒนาคนก่อน เราตั้งใจลงทุนเรื่องการศึกษา เพราะเป็นการสร้างอนาคต สร้างโอกาสให้เด็กเยาวชน ซึ่งเท่ากับว่าลงทุนหนึ่งครั้ง แต่ก่อประโยชน์ส่งผลต่อเนื่องระยะยาวและได้ผลลัพธ์ในหลายมิติ”
คุณสินีนุชกล่าวว่า กิจกรรม ACMA RUN 2024 เริ่มจากความตั้งใจของชาว วตท. (สถาบันวิทยาการตลาดทุน) ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรภาครัฐและเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการใช้ตลาดทุนมาพัฒนาผู้นำองค์กรอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายผู้บริหารองค์กร มีปลายทางคือการพัฒนาประเทศเป็นองค์รวมอย่างยั่งยืนของศิษย์เก่าในนาม ‘สมาคมสถาบันวิทยาการตลาดทุน’ หรือ สวตท. ผู้บริหารที่จบหลักสูตรแล้วจะสานสัมพันธ์ต่อเนื่อง จัดกิจกรรมบนพื้นฐานของการ ‘ระดมความร่วมมือ’ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมในแง่มุมต่าง ๆ ตามวาระ
สำหรับกิจกรรม ACMA RUN 2024 ก็เช่นกัน ฝ่ายกิจกรรม Health & Wellness & Mindfulness สวตท. จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 พร้อมเชิญชวนชาว สวตท. ร่วมระดมทุนในกิจกรรมวิ่งสะสมระยะทางในรูปแบบ Virtual Run และยังสามารถระดมทุนส่วนตัวร่วมสมทบ โดยปลายทางของกิจจรรมคือการนำทุนร่วมสนับสนุนนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล 1 ปี ผ่าน กสศ. ด้วยเชื่อว่า “การส่งต่อโอกาสการศึกษาคือการลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน” เพราะผลที่ตามมาจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับเด็กเยาวชนคนหนึ่ง กลุ่มหนึ่ง หรือเพียงครอบครัวหนึ่งเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างคนที่จะเติบโตขึ้นไปพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
“กิจกรรมปีนี้เราออกแบบให้เป็นการสะสมระยะทางผ่านแอปพลิเคชัน หรือเป็น Virtual Run ที่ใครอยู่ที่ไหนก็ร่วมกิจกรรมได้ เพราะวัตถุประสงค์ของเรานอกจากอยากให้ชาว สวตท. ดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจ ยังได้ร่วมส่งประโยชน์ต่อสังคมไปด้วยกัน โดยในทุก ๆ กิโลเมตรที่ทุกคนวิ่ง สวตท. จะสมทบเป็นทุนให้กับน้อง ๆ หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล กสศ. และนอกจากส่วนของทุนที่ได้จากการวิ่ง เรายังเปิดโอกาสให้สมาชิก สวตท. ร่วมสมทบทุนส่วนตัวเข้ามาด้วย”ประธานฝ่ายกิจกรรม Health & Wellness & Mindfulness สวตท. กล่าวต่อไปว่า ชาว สวตท. เห็นตรงกันว่าการสนับสนุนโอกาสด้านการศึกษา ที่เป็นการสร้างอนาคตที่ให้ผลลัพธ์ในหลายมิติ ประการแรกคือโอกาสที่เด็กคนหนึ่งจะได้ศึกษาต่อ มีโอกาสเติบโตในเส้นทางอาชีพ และใช้วุฒิการศึกษาไปต่อยอดยกระดับความเป็นอยู่ของครอบครัวได้ ส่วนประการที่สองคือการสร้างคนสายอาชีพที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในสายงานสาธารณสุขไม่ว่าผู้ช่วยพยาบาลหรือผู้ช่วยทันตแพทย์ที่ตลาดแรงงานยังขาดแคลนบุคลากรอยู่มาก ฉะนั้นเมื่อเยาวชนเหล่านี้เรียนจบเขาจะเข้าไปเติมเต็มระบบได้ทันที โดยเฉพาะจะมีคนที่นำความรู้ความสามารถกลับไปยังชุมชนบ้านเกิด กลายเป็นหนึ่งกำลังสำคัญของการพัฒนางานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ของตนต่อไป
ด้าน คุณยุทธ วรฉัตรธาร ประธานฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม สวตท. กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นที่ สวตท. จัดกิจกรรมโดยมุ่งไปที่การดูแลพัฒนาสุขภาพกายใจ สมาชิกเห็นตรงกันว่าต้องการสร้างผลที่ต่อเนื่องไปถึงสังคม ซึ่งทุกคนมองไปที่การสนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคน และผลลัพธ์จากการศึกษาต้องกระทบไปถึงการพัฒนาประเทศด้วย
“การสร้างโอกาสให้คนได้เรียนได้มีอาชีพนั้นสำคัญ เพราะแม้จะเป็นเด็กแค่คนเดียว ถ้าเขาได้โอกาสเรียนอย่างต่อเนื่องในสายงานที่ประเทศชาติต้องการ เขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้ ซึ่งประเด็นที่คณะทำงานเห็นพ้อง คือ ปัจจุบันเราขาดแคลนบุคลากรด้านสาธารณสุขอย่างมาก ผลิตคนเท่าไหร่ก็ไม่พอ ฉะนั้นหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลที่เป็นหลักสูตรระยะสั้น เราผลิตได้ทุกปีคือการ ‘สร้าง’ และ ‘กระจาย’ คนที่มีความรู้ความสามารถไปเติมเต็มจุดที่ขาดแคลนได้ทันที”
ประธานฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม สวตท. เชิญชวนทุกคนมีส่วนร่วมกับกิจกรรม ‘ACMA RUN 2024’ ครั้งนี้ ซึ่งเป็นความตั้งใจหนึ่งของ สวตท. ในการระดมความร่วมมือเพื่ออุดช่องว่างในสังคมเท่าที่แต่ละมือของแต่ละคนจะทำได้
“อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคืออยากให้มองว่าไม่ว่ามูลนิธิ องค์กร หรือบุคคลใด ที่พร้อมเข้ามาทำงานเพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาหรือสุขภาพเองก็ตาม ทุกโครงการทุกกิจกรรมล้วนแล้วแต่เป็นการปิดช่องว่างที่ภาครัฐมีกำลังและงบประมาณไปไม่ถึง ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะมีคนกลุ่มซึ่งไม่เคยเข้าถึงโอกาสมาก่อนเป็นผู้ได้รับ และสิ่งนี้เองที่เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า ‘การระดมทุนเพื่อสังคม’ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ ให้ได้ บอกต่อได้ เพื่อที่สังคมเราจะมีแนวร่วมของคนที่เห็นเป้าหมายเดียวกัน มีใจตรงกัน แล้วหลากหลายความเอื้ออาทรที่เกิดขึ้น ก็จะเป็นพลังของการทำงานลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นรูปธรรมจริง ๆ”