จนกว่าจะพบเด็กคนสุดท้ายที่หลุดจากระบบ คนลำปางจะไม่เลิกล้มค้นหา

จนกว่าจะพบเด็กคนสุดท้ายที่หลุดจากระบบ คนลำปางจะไม่เลิกล้มค้นหา

จังหวัดลำปาง มีตัวเลขเด็กและเยาวชนที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาอายุระหว่าง 3-18 ปีทั้งหมด 3,663 คน ของเด็กเยาวชนทั้งหมด

ตัวเลขนี้นำมาสู่การค้นหาเพื่อไม่ให้เด็กเยาวชนคนใด เสียโอกาสในชีวิต เครือข่ายงานด้านการศึกษาของจังหวัด บูรณาการการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ตามหาเด็กและออกแบบกระบวนการดูแลช่วยเหลือ ตามไปเคาะประตูบ้าน จนกว่าจะพบตัวเด็กคนสุดท้ายของพื้นที่

ดร.วิบูลย์ ทานุชิต รองประธานสมัชชาการศึกษานครลำปาง เล่าว่า จังหวัดลำปางสามารถค้นหาน้อง ๆ ตามนโยบาย Thailand Zero Dropout ได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีประสบการณ์การทำงาน ด้านการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จนสามารถออกแบบกลไกการทำงานระดับพื้นที่อย่างครอบคลุมทุกด้าน โดยมีศึกษาธิการจังหวัด สมัชชาการศึกษาจังหวัด เป็นกลไกสำคัญในการประสานความร่วมมือให้หน่วยงาน องค์กรและ สหวิชาชีพต่างๆ มาทำงานร่วมกัน

“เรามีประสบการณ์ในการค้นหาเด็กที่หลุดออกจากนอกระบบแล้วก็มีการช่วยเหลือก่อนที่จะมีโครงการ Thailand Zero Dropout ลำปางเคยช่วยเหลือเด็กที่หลุดออกจากนอกระบบหรือที่เรียกว่าเสี่ยงหลุดมาก่อน เชื่อมโยงการทำงาน เพื่อครอบคลุมเด็กเยาวชนทุกช่วงวัย ค้นหาและติดตามเด็กกลับเข้าสู่ระบบ และส่งต่อไปยังความช่วยเหลือที่เหมาะสม มีโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนผ่านฐานข้อมูล”

“ทุกฝ่ายทำงานเจาะลึก จนได้ “เกาะคาโมเดล” ที่ทำงานระดับอำเภอเกาะคาแล้วก็เจาะลึกไประดับตำบล จนได้เครื่องมือในการสแกนเด็ก ช่วงปี 2565- 2567 มอบหมายให้ครูในศูนย์เด็กเล็ก ครูในระบบและครูนอกระบบ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง อสม. ซึ่งรู้จักเด็ก รู้จักบ้านเด็กแต่ละครอบครัวเป็นอย่างดี สามารถทราบว่าเด็กแต่ละคนเป็นลูกหลานของใคร เรียนหรือทำงานอยู่ที่ไหน ไปอยู่ต่างจังหวัดอยู่ต่างประเทศ บอกได้หมด ดังนั้นเมื่อมีโครงการ Thailand Zero Dropout เรานำบัญชีรายชื่อที่ได้ ไปประชุมระดับตำบล ร่วมกันค้นหาเด็กตามรายชื่อที่ปรากฎ ด้วยกลไกที่เคยใช้ทำงานในพื้นที่ได้ในทันที”

“พอเราได้ตัวเลขออกมาว่ามีเด็ก 3,663 ลำปางจึงมีความพร้อมที่จะสแกนว่า 3,663 คนนี้ อยู่อำเภอไหนบ้าง ร่วมมือกัน โดยมีศึกษาธิการจังหวัด สมัชชาการศึกษาจ.ลำปาง และ สกร.รวมทั้งหน่วยงานต่างๆของทั้ง 13 อำเภอ โดยใช้โมเดลเดิมที่เคยดำเนินการในเกาะคาโมเดล จนถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ อำเภอเกาะคา เราสแกนเด็กจนเหลือคนสุดท้าย และได้คำตอบว่าเด็กคนนี้ ย้ายไปตามแม่ไปอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี แต่จากการพยายามติดต่อแม่และเสนอว่าหากอยากให้ลูกกลับมาเรียนต่อ จังหวัดจะช่วยดำเนินการ ให้เด็กกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิมหรือถ้าหากไม่สะดวกที่จะเรียนในระบบปกติก็มีทางเลือกเป็นการศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย หรือเรียนในศูนย์การเรียนตามมาตรา 12 ทางจังหวัดมีงบประมาณดูแล และมีงานให้ทำ หากต้องการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย”

“ตอนนี้อำเภอเกาะคาเจอตัวเด็กคนสุดท้ายในรายชื่อแล้ว จังหวัดลำปางเหลือสรุปตัวเลขการสำรวจอีก 2 อำเภอ และเมื่อได้ข้อสรุปจากการสำรวจแล้ว เด็กคนไหนที่ครูสกร. หรือสหวิชาชีพที่เข้ามาร่วมกันติดตาม ตามตัวไม่ได้ ทีมของศึกษาธิการจังหวัดและสมัชชาการศึกษาจ.ลำปาง จะช่วยเข้าไปเช็คข้อมูลในเชิงลึกอีกครั้ง เพื่อสำรวจเด็กนอกระบบการศึกษาที่ตกหล่นให้ครบ 100% เราตั้งใจที่จะไปเคาะประตูบ้านเด็กกลุ่มเป้าหมายทุกคน จนกว่าจะเจอหรือทราบคำตอบที่ชัดเจนจากเด็กคนสุดท้าย”