ร้านยากรุงเทพจัดกิจกรรม “วิ่งให้โอกาส 2025” เพื่อนำรายได้จากค่าสมัครโดยไม่หักค่าใช้จ่าย 1,250,000 บาท มอบให้กับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ผ่านมูลนิธิก้าวคนละก้าวภายใต้โครงการ “ก้าวเพื่อน้อง ปีที่ 5” เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้เรียนต่อ โดยมีแนวคิดเปลี่ยนก้าววิ่งให้เป็นห้องเรียน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่
กิจกรรมนี้จัดขึ้นที่บางกอกเวิลด์ สวนสยาม โดยภายในงานมีเหล่าดาราและเซเลบริตี้มาร่วมวิ่งมากมาย เช่น พี่ตูน อาทิวราห์, โตโน่ ภาคิน, อั้ม อธิชาติ, แพท พาวเวอร์แพท, ครูเต้ย อภิวัฒน์, ครูแอน นางฟ้านักวิ่ง และอื่น ๆ ที่ร่วมสนับสนุนโครงการดี ๆ เพื่อเด็กและเยาวชนไทย
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กสศ. เป็นองค์กรที่มุ่งสนับสนุนเด็ก เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างเต็มตามศักยภาพ ปัจจุบันมีเด็กและเยาวชนไทยที่อายุระหว่าง 3-18 ปี ประมาณ 900,000 คน อยู่นอกระบบการศึกษา และในช่วงปิดเทอมใหญ่นี้ เป็นรอยต่อสำคัญที่มักมีเด็กประมาณ 1 ใน 5 ตัดสินใจไม่เรียนต่อเมื่อเรียนจบชั้น ม.3 โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่มีทุนทรัพย์ จึงต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานทันที ซึ่งทำให้โอกาสในชีวิตและอนาคตของพวกเขามีจำกัด และเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาจะมีโอกาสกลับมาเรียนอีกน้อยมาก
“ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ กสศ. ได้ร่วมกับมูลนิธิก้าวคนละก้าวในการดำเนินโครงการก้าวเพื่อน้อง ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้น้อง ๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงกว่าภาคบังคับ ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 5 แล้ว
“การจัดกิจกรรมวิ่งให้โอกาสถือเป็นโอกาสสำคัญที่พี่ ๆ นักวิ่งทุกคนที่มาร่วมกิจกรรม นอกจากจะได้ดูแลสุขภาพตัวเองจากการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นการช่วยดูแลสุขภาพของการศึกษาของเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง รวมถึงเป็นการดูแลอนาคตของประเทศไทยด้วย ทุกก้าวที่นักวิ่งทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ก็คือโอกาสในการช่วยให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสก้าวต่อไป และช่วยให้น้อง ๆ ได้หลุดจากความยากจนและมีส่วนในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน นี่คือหัวใจสำคัญของการร่วมมือกันในวันนี้” ดร.ไกรยสกล่าว
คุณชูวิทย์ วัยศิริโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการร้านยากรุงเทพ กล่าวว่า การจัดกิจกรรม “วิ่งให้โอกาส” ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สืบเนื่องมาจากความตั้งใจจริงและได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงได้รับความสนใจจากประชาชน จนถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ จึงมีความตั้งใจที่จะดำเนินการต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยงานในปีนี้จึงได้จัดขึ้นอีกครั้งตามเจตนารมณ์เดิม ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนการวิ่งให้เป็นห้องเรียน” เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และให้พวกเขามีอนาคตที่สดใสขึ้น
“งานวิ่งที่เราจัดขึ้นมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพผ่านการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนที่มีจิตกุศล รวมถึงดารานักแสดงและนักวิ่งจากภาคเอกชนที่มาร่วมกิจกรรม”
คุณชูวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า งานวิ่งในทุกปีที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับเยาวชนอยู่เสมอ และในปีนี้ ทางร้านยากรุงเทพจึงเลือกที่จะนำรายได้จากค่าสมัครที่ไม่มีการหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ผ่านมูลนิธิก้าวคนละก้าว เพื่อช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
“เพราะเรามองเห็นว่า กสศ. เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพในการนำเงินทุนที่รวบรวมได้ ไปช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ”
พี่ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย ประธานมูลนิธิก้าวคนละก้าว กล่าวว่า แม้การเข้าร่วมวิ่งในครั้งนี้จะมีข้อจำกัดด้านความพร้อมของร่างกาย ทำให้ตัดสินใจวิ่งในระยะทางเพียง 4 กิโลเมตร แต่ระยะทางนี้ก็สามารถทำให้เห็นถึงความสุขจากผู้เข้าร่วมวิ่งและการร่วมกันส่งต่อโอกาสดี ๆ ให้กับน้อง ๆ ที่ต้องการการสนับสนุน
“ปลายทางของรายได้จากการวิ่งครั้งนี้จะถูกนำไปสมทบกับโครงการก้าวเพื่อน้อง ซึ่งกำลังเข้าสู่ปีที่ 5 ที่เราจัดร่วมกับ กสศ. เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ที่ต้องการโอกาสในการเรียนรู้ แต่มีข้อจำกัดด้านฐานะทางบ้าน และต้องขอขอบคุณนักวิ่งทุกคน ร้านยากรุงเทพ และสปอนเซอร์ทุกเจ้าที่ช่วยให้งานในวันนี้เกิดขึ้นได้ รวมถึงดารานักร้องและทุกคนที่มาร่วมในอีเวนต์ครั้งนี้” พี่ตูน อาทิวราห์กล่าว
