วันแรกพบ Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6 “ยอดขายไม่ได้มีค่าเท่าประสบการณ์ที่ได้จากโครงการ” : โรงเรียนบ้านหลวงวิทยา จ.นครปฐม

วันแรกพบ Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6 “ยอดขายไม่ได้มีค่าเท่าประสบการณ์ที่ได้จากโครงการ” : โรงเรียนบ้านหลวงวิทยา จ.นครปฐม

จากความสำเร็จของกิจกรรม Equity Partnership’s ใน 5 ซีซันที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการร่วมมือของท้องถิ่น ชุมชน และคนในพื้นที่ ผ่านเครือข่ายคณะทำงานที่มีตัวแทนโรงเรียนในสังกัด สพฐ. จากทุกภูมิภาค รวมทั้งเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติ ที่มีบุคลากรคณะครูและนักเรียนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 500 คน 

ในปีนี้ Equity Partnership’s ยังคงเดินหน้าต่อในซีซันที่ 6 โดยมีโรงเรียนสังกัด สพฐ. ส่งรายชื่อผลิตภัณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะคัดเลือก 7 โรงเรียนสุดท้ายที่จะได้ร่วมกิจกรรมกับนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ พร้อมเรียนรู้จากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลลัพธ์ของกิจกรรมคือการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บน Shopee โดยรายได้ทั้งหมดจะย้อนคืนกลับไปสู่โรงเรียนและนักเรียนทุนเสมอภาค

อ่านข่าว: “Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6” การพบกันครั้งแรกของนักเรียนทุนเสมอภาคกับนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ

ในกิจกรรมแนะนำโครงการ Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6 ซึ่งเป็นการปฐมนิเทศและเวิร์กช็อปครั้งแรกระหว่างนักเรียนทุนเสมอภาคกับนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณครูและนักเรียนจาก โรงเรียนบ้านหลวงวิทยา จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็น 1 ใน 7 โรงเรียนที่ร่วมโครงการในปีนี้ โดย ครูสราวุธ อ้นคำ เล่าว่า ความตั้งใจที่อยากให้นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมนี้ เนื่องจากโรงเรียนบ้านหลวงวิทยาเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และเด็ก ๆ มาจากครอบครัวที่มีฐานะไม่ร่ำรวย โอกาสในชีวิตค่อนข้างจำกัด ดังนั้น การได้พัฒนาทักษะที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ จะช่วยให้นักเรียนมีทุนทรัพย์ที่สามารถใช้ในการศึกษาต่อได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในอีกหลายต่อ โดยเฉพาะการเปิดโลกทัศน์ให้กับนักเรียน ให้ได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับพี่ ๆ จากโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะในการทำงานเป็นทีมและการสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังทำให้นักเรียนได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ และได้รับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาตัวเองในอนาคตได้อีกด้วย

ครูสราวุธ อ้นคำ

เมื่อทราบว่าผลิตภัณฑ์ตั้งต้นของโรงเรียนบ้านหลวงวิทยา คือ ‘ครีมขัดรองเท้าจากเปลือกผลไม้’ เราจึงถามถึงความคาดหวังที่ทางโรงเรียนตั้งไว้ ครูสราวุธได้กล่าวว่า “ในเรื่องยอดขายไม่ได้คาดหวังไว้สูงมาก เพราะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาร่วมพัฒนาในโครงการเป็นสินค้าที่ขายได้เฉพาะกลุ่ม แต่สิ่งที่หวังจะได้รับจริง ๆ คือช่องทางการขายที่กว้างขึ้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ผ่านตาผู้บริโภคและผู้บริโภคมองเห็นผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น”

หลังกิจกรรมเวิร์กช็อปที่กินเวลาตลอดทั้งวัน ครูสราวุธบอกกับเราว่าการร่วมโครงการนี้ถือเป็นกำไรใหญ่สำหรับนักเรียน เพราะเด็ก ๆ ไม่ได้แค่เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และทักษะการขาย แต่ยังได้ฝึกทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อน ๆ จากโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีมและเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย การได้ทำงานร่วมกับนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติจะเป็นประสบการณ์ที่สำคัญในการเรียนรู้จากผู้คนที่มีความแตกต่าง และสามารถนำแนวคิดใหม่ ๆ กลับไปใช้ในการดำเนินชีวิตและพัฒนาตนเอง

ส่วนในมุมมองของนักเรียน เรามีโอกาสพูดคุยกับ น้องอ๋อม และ น้องแก้ว นักเรียนชั้น ม.ต้น จากโรงเรียนบ้านหลวงวิทยา ซึ่งทั้งคู่ได้พูดถึงความรู้สึกในการร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปและการได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6

น้องแก้ว กล่าวถึงความรู้สึกว่า “เมื่อรู้ว่าจะได้ร่วมกิจกรรมก็รู้สึกดีใจมาก เพราะอยากมีความรู้และพัฒนาทักษะการผลิตสินค้าค่ะ” ขณะที่ น้องอ๋อม กล่าวว่า “วันนี้มาด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ กังวลว่าจะทำได้ไม่ดี แต่ยังไงก็ยังอยากจะร่วมกิจกรรมมาก ๆ เพราะอยากมีความรู้ติดตัวไปใช้ในอนาคตค่ะ”

ทั้งสองคนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่โครงการ Equity Partnership’s ต้องการส่งเสริมให้เกิดขึ้นกับนักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ

(จากซ้าย น้องอ้อม, น้องมิ้ง, น้องแก้ว

นเมื่อกิจกรรมเวิร์กช็อปจบลง น้องอ๋อม บอกว่า “แค่มาวันแรกก็ได้ความรู้ที่เอาไปปรับใช้ได้แล้ว โดยส่วนที่ดีคือสิ่งที่รับวันนี้ทำให้เรามั่นใจว่า เราสามารถทำงานอาชีพหลักและอาชีพเสริมไปพร้อมกันได้ ถ้าเรามีความรู้และเข้าใจงานที่ทำดีพอ” 

ขณะที่ น้องแก้ว กล่าวเสริมว่า “กิจกรรมนี้ทำให้ได้ความรู้ในหลายด้าน ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันทั้งเรื่องเรียนและการทำงาน ส่วนความรู้ที่ได้วันนี้ เราจะเอาไปปรับใช้ในการพัฒนาครีมขัดรองเท้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ตั้งต้น เพื่อที่พวกเราจะสามารถสร้างยอดขายใน Shopee ให้มาก ๆ ได้”

น้องอ๋อม ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมนี้ทำให้ได้รับประสบการณ์หลายอย่าง เช่น การได้พบเพื่อนใหม่ และได้แชร์ไอเดียร่วมกัน ซึ่งเป็นทักษะด้านสังคมที่สามารถนำไปใช้กับการทำงานจริงในวันข้างหน้าได้ นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานเป็นกลุ่มและการร่วมมือกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ 

สุดท้าย เมื่อกิจกรรมสิ้นสุดลง เราสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงวันเดียวของทั้ง เด็ก ๆ และ ครู ที่เข้าร่วมในโครงการ Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6 ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ การมีมุมมองใหม่ต่อผลิตภัณฑ์ การวางแผนการผลิตสินค้า การเข้าใจทักษะการขาย และการเรียนรู้การทำงานเป็นทีม สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่มีค่า และเราจะติดตามต่อไปว่าในช่วง 7 เดือนข้างหน้านี้ นักเรียนทุนเสมอภาคและนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติจะสามารถสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของพวกเขาให้มีความน่าสนใจต่อไปอย่างไร?

รับชมบรรยากาศกิจกรรมปฐมนิเทศและเวิร์กช็อปครั้งแรกของโครงการ  Equity Partnership’s School Network ปีที่ 6 คลิก