“โอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ” ถอดรหัสความสำเร็จของอดีตนักศึกษาทุนนวัตกรรม ฯ และทุนพระกนิษฐาฯ ‘อั๋น-บุรพล บุญเลิศรพ’ ผู้ช่วยนักวิจัยพันธุ์ข้าว ม.แม่โจ้

“โอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ” ถอดรหัสความสำเร็จของอดีตนักศึกษาทุนนวัตกรรม ฯ และทุนพระกนิษฐาฯ ‘อั๋น-บุรพล บุญเลิศรพ’ ผู้ช่วยนักวิจัยพันธุ์ข้าว ม.แม่โจ้

จากลูกชาวนาที่ต้องใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างยากลำบาก ไม่กล้าแม้แต่จะเลือกเส้นทางอาชีพอย่างที่ฝัน ชีวิตของเขากลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อได้รับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง และทุนพระกนิษฐาสัมมาอาชีพ กระทั่งวันนี้เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และได้ทำงานที่รักในตำแหน่งผู้ช่วยวิจัย ที่ศูนย์วิจัยข้าว มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 

“ผมเชื่อว่าโอกาสจะมาหาคนที่พร้อมเสมอ ขอแค่อย่าหยุดเดิน…”

บุรพล บุญเลิศรพ หรือ อั๋น อดีตนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง และทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เล่าความคิดที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในวันนี้ของตัวเอง

บุรพล บุญเลิศรพ

“วันไหนเราหยุดเราจะช้ากว่าคนอื่นไปหนึ่งก้าว เราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม บางคนอาจจะได้รับการศึกษาหรือไม่ได้รับก็ตาม ผมก็เชื่อว่าสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกันครับ แต่ถ้าดีที่สุดก็คืออยากให้สู้ อยากให้เรียน เพราะการศึกษาจะเป็นใบเบิกทางให้เรา มันสำคัญนะ”

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อั๋นเล่าว่าชีวิตค่อนข้างลำบาก ขาดโอกาสทางการศึกษา และไม่มีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน ส่งผลให้หลังจบมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาเลือกที่จะเรียนต่อใกล้บ้านมากกว่ามองหาสิ่งที่สนใจจริง ๆ   

“พ่อแม่ผมประกอบอาชีพเกษตรกร หาเช้ากินค่ำ ฐานะทางบ้านตอนนั้นก็ถือว่าลำบากอยู่ครับ คือรายได้มันไม่คงที่ ปีไหนแล้งก็แย่เลย เราควบคุมไม่ได้ ถ้าปีไหนผลผลิตมันดี เราก็ได้ผลผลิตดี แล้วบ้านผมอยู่ห่างไกลความเจริญครับ หมู่บ้านห้วยทราย ตำบลโนนทอง จังหวัดขอนแก่น การที่เราจะไปเรียนไกลบ้าน มันก็ต้องใช้เงิน พอจบ ม.6 ผมก็เลยเรียนต่อ ปวช. คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่วิทยาลัยเกษตร เพราะมันใกล้บ้าน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย”

ทว่าระหว่างเรียนอยู่นั้นก็มีอาจารย์แนะนำทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ของ กสศ. ซึ่งทำให้เขาได้เรียนต่อในระดับปวส. ที่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น สาขาวิชาพืชศาสตร์ ก่อนจะคว้าทุนพระกนิษฐาสัมมาอาชีพ เพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรี สาขาพืชไร่ คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทำให้เขาได้หันกลับมาเดินในเส้นทางที่รักและคุ้นเคย

“ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เขาสนับสนุนตั้งแต่ค่าเทอม ค่าใช้จ่ายรายเดือน เดือนละ 7,500 บาท รวมไปถึงสอนการบริหารจัดการเงินที่ได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังดูแลเรื่องของจิตใจด้วย

“แต่ตอนเรียน ปวส. ผมไม่ค่อยได้ใช้เงินทุนฯ เพราะทำงานรับจ้างไปด้วย คิดว่าจะเก็บตังค์ที่ได้จากทุนนี้มาเรียนต่อปริญญาตรี เพราะตอนนั้นผมยังไม่คิดว่าจะสามารถเอื้อมมือคว้าทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพได้ แต่สุดท้ายก็ได้ทุนเรียนต่อ เงินที่เก็บไว้ก็เอาไว้ต่อยอดในอนาคตครับ”

อั๋นเล่าว่า หลังจากได้มาเรียนด้านเกษตร เป้าหมายในชีวิตก็ชัดเจนขึ้น นั่นคือ การได้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าว เพื่อพัฒนาและยกระดับมูลค่าพันธุ์ข้าวไทย สู้กับพันธุ์ข้าวต่างประเทศ 

“ตอนที่ผมเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจได้ไปฝึกงานอยู่เกษตรอำเภอครับ ก็ได้ออกไปหาเกษตรกรเยอะมาก การที่เราได้ไปพูดคุยกับเขา ได้ทำสื่อทำอะไรไปให้เขาดู มันทำให้เราเกิดความคิดว่าอยากเรียนต่อด้านนี้ พอดีได้ทุนนี้มาก็โอเคเลยครับ”

อั๋นบอกว่า แม้พื้นฐานครอบครัวจะเป็นเกษตรกรอยู่แล้ว แต่การที่เขาได้มาเรียนด้านนี้ทำให้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เช่น การปรับปรุงพันธุ์ข้าว ซึ่งนอกจากจะทำให้เขาค้นพบแพสชันของตัวเอง ยังได้ทำงานอย่างที่ฝันไว้ นั่นคือการเป็นผู้ช่วยวิจัย หน่วยงานความเป็นเลิศด้านการปรับปรุงพันธุ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (ศูนย์วิจัยข้าว มหาวิทยาลัยแม่โจ้)

แม้จะไม่ใช่คนเรียนเก่งที่สุด แต่การที่อั๋นสามารถพาตัวเองมาอยู่ในจุดที่สามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้อยางวันนี้ นอกจากโอกาสทางการศึกษาที่มีผู้หยิบยื่นให้แล้ว เขาบอกว่าตนเองก็ต้องพัฒนาศักยภาพให้พร้อมที่จะรับโอกาสนั้นด้วย

“ตอนที่มีผู้ใหญ่แนะนำทุนพระกนิษฐาสัมมาอาชีพ ผมก็ผลักดันตัวเองอย่างเต็มที่ อ่านหนังสือ เตรียมทุกอย่าง ผมเป็นคนนึงที่คิดว่า โอกาสมันจะมาหาไม่บ่อย แต่จะมาหาคนที่พร้อมเสมอ เราต้องพร้อมสำหรับมัน

ถึงวันนี้ แม้ว่าอั๋นจะมาถึงจุดหมายแรกในการมีอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองและช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว แต่สำหรับวันข้างหน้าเขายังมีอีกหนึ่งความฝันที่กำลังพยายามทำให้สำเร็จ นั่นก็คือการเป็น ‘ครู’ 

“ผมอยากเป็นครูด้วยครับ ตอนนี้ผมสอบข้าราชการครูผู้ช่วยของวิทยาลัยเกษตร สาขาเกษตรศาสตร์ ก็รอเขาเรียกครับ ที่อยากเป็นครู เพราะผมคิดว่าการเป็นครูคือการเป็นแม่พิมพ์พ่อพิมพ์ของชาติ เมื่อเราได้โอกาสมาเราก็อยากให้โอกาส เอาความรู้ที่ได้มาให้กลับคืนกับคนที่เขาอาจจะต้องการ มันน่าจะดี”

ทั้งนี้ อั๋นมองว่าการศึกษานั้นสำคัญอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน เพราะมันคือ โอกาส ความหวัง และอนาคต 

“อีกอย่างการศึกษามันก็ไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในระบบหรือนอกระบบ และคำว่าการศึกษามันสำคัญไม่เฉพาะแค่กับเด็ก ผู้ใหญ่ถ้าโตมาแล้วยังขาดการศึกษาแบบต่อเนื่อง ก็จะมีความรู้แค่เฉพาะตรงนั้น แต่ถ้าเรายังศึกษาไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้เยอะขึ้น ผมเลยคิดว่า การศึกษาเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราตามโลกได้ทัน ถ้าเราหยุดศึกษาเมื่อไหร่ เราก็จะหยุดนิ่งเลยครับ การศึกษาทำให้โลกของเรากว้างขึ้น ทุกคนศึกษาได้หมด ศึกษาได้ทุกที่ อยู่ที่ว่าใครจะมีแรงผลักดันตัวเองให้ไขว่คว้าโอกาสนั้นไว้

นอกจากนี้เขายังพูดถึงการศึกษาในระบบ ว่ายังจำเป็นสำหรับคนที่ต้องการใช้วุฒิการศึกษาในการทำงาน ดังนั้นหากใครมีโอกาสและมีความพร้อมที่จะเรียน ขอให้ตั้งใจและใช้โอกาสนั้นอย่างดีที่สุด เพราะมันสามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้นได้

“เพื่อนผมคนนึงพ่อเขาเป็นคนพิการ ผมก็เสียดายเขามาก ตอนนั้นเขาเลือกที่จะยอมแพ้แล้วก็ไม่เรียน ไปทำงาน ถ้าวันนั้นเขาได้โอกาสเหมือนผม เขาสู้อีกสองสามปี เขาก็คงประสบความสำเร็จเหมือนกัน”

ถึงตรงนี้ อั๋นฝากข้อคิดถึงน้อง ๆ ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และเริ่มมองไม่เห็นความหวังทางการศึกษา จนเริ่มลังเลว่าจะเลือกเส้นทางชีวิตอย่างไร ว่าอย่าหยุดเรียนรู้ อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง ขอให้สู้ เพราะการศึกษาเป็นใบเบิกทางที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตให้เราได้  

พร้อมกันนี้เขาขอขอบคุณผู้สนับสนุนใจดีทุกภาคส่วนที่หยิบยื่นโอกาสทางการศึกษา ซึ่งทำให้เขาได้เปิดโลกการเรียนรู้ที่กว้างขึ้น ได้มีการงานที่มั่นคง และสุดท้ายคนที่เขาไม่ลืมขอบคุณ ก็คือตัวเองที่มุ่งมั่นและสู้มาตลอด“ผมภูมิใจมากครับ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ต้องขอบคุณตัวเองก่อนทุกอย่าง เพราะว่าถ้าเราไม่คิดจะสู้ตั้งแต่วันนั้นมันก็ไม่มีความหมาย แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเรา ถ้าไม่ได้มาเจอกับทุนนี้ผมก็คงลำบากกว่านี้ครับ คิดว่าตัวเองก็คงจะเรียนอยู่ แต่ระหว่างทางอาจจะเหนื่อยกว่านี้ ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสด้วยครับ”