ต้นเดือนที่ผ่านมา เวทีประชันวิสัยทัศน์ : เลือกตั้ง 66 ฟังเสียงคนไทย “ออกจากหลุมดำการศึกษา ออกจากกับดักความยากจน” มีการดีเบตของ 6 พรรคการเมือง เสนอความคิด แสดงวิสัยทัศน์ รวมถึงเรื่องที่ปฏิบัติได้จริง ผ่าน ‘นโยบายพลิกการศึกษา’
ทั้งนี้ วิธีพลิกการศึกษาในมุมมองของ ‘ดร.ไกรยส ภัทราวาส’ ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) คือ หลักประกันโอกาสทางการศึกษา และมีทางเลือกให้เด็กทุกคน ผ่าน 3 ข้อเสนอนโยบายเร่งด่วนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดย กสศ.
“ไม่มีระบบการศึกษาที่เด็กบางคนต้องก้าวออกไป ขณะที่เด็กบางคนยังอยู่ในระบบ รวมถึงส่งเสริมกลไกท้องถิ่นให้มีกำลังของตัวเองในการพัฒนาพื้นที่ของเขาได้”
และนี่คือ นโยบายพลิกโฉมการศึกษาจาก 6 พรรค คือ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ก้าวไกล รวมไทยสร้างชาติ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์
ทั้งหมดนี้เสมือนคำสัญญาว่าหลังการเลือกตั้ง พวกเขาจะเดินหน้าทำในสิ่งที่พูด เราจึงควรอ่าน และ save เก็บไว้ เพื่อดูว่า Before และ After จะเป็นอย่างไร และใครบ้างที่ทำตามสัญญา
ที่มา : LIVE! ศึกดีเบตเลือกตั้ง 2566 “หลุมดำการศึกษาไทย” | 31 มี.ค. 66 ช่อง PPTV HD 36
3 ข้อเสนอนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
วาระการเลือกตั้งของประเทศไทยที่กำลังจะมาถึง กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เปิดข้อเสนอเร่งด่วน นโยบาย “ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา” เพื่อเด็กและเยาวชนยากจน 2.5 ล้านคน หลุดพ้นจากวงจรความยากจนข้ามรุ่น เน้นนโยบายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ
1.หลักประกันโอกาสทางการศึกษา 20 ปี (ปฐมวัย-อุดมศึกษา)
เพิ่มเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขให้เด็กเยาวชนในครัวเรือนใต้เส้นความยากจน (2,762 บาทต่อคน/ครัวเรือน) จำนวน 2.5 ล้านคน ทุกคน ครอบคลุมทุกการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับอนุบาลและมัธยมศึกษาตอนปลาย สายอาชีพและเทียบเท่าในทุกสังกัดการศึกษา ทุกรูปแบบการเรียนรู้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงและคงอยู่ในระบบการศึกษา ซึ่งงบเรียนฟรี 15 ปี ยังไม่ครอบคลุม
2.ระบบการเรียนรู้ที่ทุกคนมีทางเลือกและตอบโจทย์ชีวิต
ระบบการศึกษาไม่เข้ากับเด็ก ขาดแคลนทางเลือก ไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุสำคัญของการผลักดันให้เด็ก ๆ หลุดออกจากระบบการศึกษา
รัฐจึงควรกระจายอำนาจในการจัดการศึกษา สนับสนุนให้เกิดหน่วยจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันรายบุคคล ยืดหยุ่นทั้งเวลา รูปแบบ และเงื่อนไขในการเข้ารับบริการทางด้านการศึกษา สามารถเรียนแล้วได้วุฒิ ได้งาน ได้เงิน ได้ทักษะชีวิต ทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่
3.กระจายอำนาจด้วย Hub และทรัพยากรไปยังจังหวัดและท้องถิ่น
จัดทำนโยบายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของพื้นที่ และเชื่อมโยงความร่วมมือทุกมิติ รวมถึงจัดตั้งกองทุนลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนากำลังคนระดับจังหวัดหรือท้องถิ่น สามารถพัฒนานวัตกรรมการเงินและการคลัง เพื่อระดมทรัพยากรและบริหารงบประมาณภายในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ดร.ไกรยส ภัทราวาส ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ย้ำว่า ถึงเวลาที่การศึกษาไทยต้องมีหลักประกันการศึกษา และมีทางเลือกให้เด็กทุกคน
“ไม่มีระบบการศึกษาที่เด็กบางคนต้องก้าวออกไป ขณะที่เด็กบางคนยังอยู่ในระบบ รวมถึงส่งเสริมกลไกท้องถิ่นให้มีกำลังของตัวเองในการพัฒนาพื้นที่ของเขาได้”
อ่านรายละเอียดต่อได้ที่ : เปิด 3 ข้อเสนอเร่งด่วนจาก กสศ. ในวาระเลือกตั้ง เพื่อเด็กยากจน 2.5 ล้านคน หลุดพ้นจากวงจรยากจนข้ามรุ่น
ภูมิใจไทย : สร้างความเท่าเทียมทางการศึกษา และ พัฒนาหลักสูตรให้ทันเทคโนโลยี
ดร.กมล รอดคล้าย คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย บอกว่า จะสร้างสะพานข้ามหลุมดำการศึกษา ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการเพื่อให้คนเข้าถึงการศึกษาทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงมีกระบวนการท็อปอัพให้นักเรียนสามารถเทียบโอนการศึกษาได้ ซึ่งถ้าได้เข้ารับเลือกเป็นรัฐาล จะพลิกโฉมการศึกษาด้วย 6 เรื่องนี้
- เรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี
- ระบบธนาคารหน่วยกิต
- สอนอาชีพธุรกิจดิจิตอล
- Virtual School ทั้งออนไลน์และออนไซต์
- ระบบจัดสรรครู จัดให้มีครูทั่วถึง 80,000 หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 10 คน
- เงินยืมเพื่อการศึกษา ระยะสั้น ไม่คิดดอกเบี้ย
พลังประชารัฐ : สวัสดิการทางการศึกษา อาหารกลางวันฟรี และการศึกษาทางเลือก
ผศ.ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ คณะกรรมการกำหนดนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แนะนำโมเดล ‘การศึกษาประชารัฐ’ ที่มีสามส่วนสำคัญคือ สวัสดิการทางการศึกษา นโยบายอาหารกลางวันฟรี และการศึกษาทางเลือก และนี่คือสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐจะทำ
- บัตรสวัสดิการสำหรับเด็ก
- จัดทำระบบข้อมูลส่วนกลาง
- ลดงานธุรการครู
- Upskill และ Reskill ครู
- Teach and Travel มีทุนให้ครูไปต่างประเทศ 10,000 ทุน
- Work and Travel มีทุนให้เด็กไปต่างประเทศ 100,000 ทุน
- มีโรงงานในสถาบันอาชีวะ
- เด็กยากจนเรียนฟรีถึงปริญญาตรี
พรรคก้าวไกล : เรียนฟรีจริงทุกคน, โรงเรียนปลอดภัยไร้อำนาจนิยม และ คืนครูให้ห้องเรียน
พริษฐ์ วัชรสินธุ – ไอติม – Parit Wacharasindhu ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล เน้นความสำคัญของการลดวิชาบังคับ เพื่อแก้ปัญหาเด็กไทยเรียนเยอะ ระบบการศึกษาที่ไม่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ไม่หลากหลาย และประยุกต์ใช้ไม่ได้จริง และควรต้องมีแพลตฟอร์มตลอดชีวิตที่ทุกคนสามารถร้องเรียนเรื่องเข้าไปได้ รวมถึงสร้างเสรีภาพให้ผู้เรียน และจะผลักดันให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
- โรงเรียนปลอดภัย
- ลดวิชาหลักเพิ่มวิชาเลือก
- สวัสดิการจำเป็น เช่น เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง
- คืนครูให้ห้องเรียน
- คูปองการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เด็ก 1,000-2,000 บาทต่อคน/ปี
- กระจายอำนาจทางการศึกษา
พรรครวมไทยสร้างชาติ : ทุนเรียนวิชาชีพอำเภอละ100 ทุน และ สถาบันกำเนิดศิลป์ปั้นศิลปินสู่เวทีโลก
รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง (ดร๊าฟ ดวงฤทธิ์) รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เผยว่า พรรคเน้นส่งเสริมทักษะวิชาชีพด้วยทุนเรียนฟรี และยึดหลักส่งเสริมสนับสนุนเพื่อสร้างโรงเรียนเพื่อเด็ก ไม่ได้สร้างโรงเรียนเพื่อโรงเรียน และ จะทำสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ผสานความร่วมมือพัฒนาการศึกษาระหว่างรัฐและเอกชน
- สวัสดิการครอบครัว โดยการ Upskill และ Reskill พ่อแม่
- สนับสนุนทุนอาหารกลางวันเด็ก
- ส่งเสริม Soft Power
พรรคเพื่อไทย : Learn to Earn , Free Tablet for All , 1 อำเภอ 1 ทุน และ ศูนย์การเรียนรู้ครบทุกจังหวัด
ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม (ณหทัย ทิวไผ่งาม Dr.Nahathai Thewphaingarm) กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านการส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ย้ำว่าจะต้องทำให้การศึกษาเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต และให้คนไทยเข้าถึงการศึกษาได้ตลอดเวลา ผ่านสิ่งที่จะทำต่าง ๆ ดังนี้
- สนับสนุนเงินทุนให้แก่ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท/เดือน
- กระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 4 กม.
- สร้างระบบฐานข้อมูล จับคู่คนกับงาน
- สนับสนุนทรัพยากรครู
- ลดงานครู
- ให้เด็กเรียนผ่าน Tablet ในโรงเรียนที่ขาดแคลนครู
พรรคประชาธิปัตย์ : คนไทยมืออาชีพทุกสาขา , คนรุ่นใหม่การศึกษาคุณภาพสูง และ สร้างเทคโนโลยีได้เองในประเทศ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (เอ้ สุชัชวีร์) หัวหน้าทีมนโยบายการศึกษาทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เผยจุดยืนว่าพรรคเน้นสร้างคน สร้างชาติ และมุ่งมั่งสร้างเด็กไทยให้ไม่แพ้ที่ใดในโลก เลิกปฏิรูปแล้วลงมือทำทันที ผ่านสิ่งที่จะทำดังนี้
- เด็กไทยกินนมฟรีทั้งปี
- อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 ล้านจุดทั่วประเทศ
- เพิ่มเงินกู้ กยศ.
- เรียนฟรีไม่มีค่าหน่วยกิตในสาขาที่ตลาดต้องการ
- เอกชนจ้างงาน นศ. ลดหย่อนภาษีได้