‘Keep’ แบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นจากน้อง ๆ ชั้น ม.5 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (Satit Kaset IP) โดยคว้ารางวัลที่ 1 จากการแข่งขันฝึกฝนทักษะการดำเนินธุรกิจ JA Thailand Company Program Competition of the Year 2021-2022 พร้อมยกรายได้ 15% ให้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อนำไปใช้ในงานลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา อันเป็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นร่วมกันว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ
‘เก็บ’ ธรรมชาติไว้ให้อยู่ต่อไปอีกนาน ๆ
ตัวแทนเพื่อน ๆ ชาว ‘Keep’ ได้แก่ ‘ออม’ พิชาพงศ์ เทียมประเสริฐ, ‘หยก’ สปันนา เร่งพุฒิพงษ์, ‘ทับทิม’ โชติกา โอวรางค์ และ ‘แตมมี่’ ธมิรี เจริญกุล เล่าว่าแบรนด์เริ่มต้นขึ้นจากการจำลองรูปแบบบริษัท เพื่อเข้าร่วมแข่งขันทักษะด้านธุรกิจที่จัดโดย Junior Achievement Thailand foundation (JA Thailand) กับการสร้างแบรนด์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้โจทย์ ‘การลดหรือแก้ปัญหาที่มีอยู่เดิม’
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo1_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
‘ออม’ ในฐานะประธานบริษัทเล่าว่า จากโจทย์ที่ได้รับมา เพื่อน ๆ ชั้น ม.5 จึงประชุมกัน แล้วตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยสมาชิก 15 คน พร้อมแบ่งหน้ากันเป็นแผนกต่าง ๆ อาทิ ฝ่ายผลิต การตลาด ประชาสัมพันธ์ จากนั้นเริ่มค้นหาไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์ จนทุกคนลงความเห็นว่าจะทำ ‘กระเป๋าหนัง’ ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ โดยออกแบบให้สามารถบรรจุได้ทั้ง Laptop และ Tablet ที่ใช้ได้ทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนวัยทำงาน
‘ทับทิม’ ฝ่าย Production กล่าวว่า “แน่นอนว่าข้อแม้แรกคือเราต้องค้นหาหนังเทียมคุณภาพดี ตรงกับคุณสมบัติคือสวยงาม เหมาะกับการใช้งาน จุของได้เยอะ และไม่ทำร้ายธรรมชาติ จนมาเจอ Vegan Lather หรือหนังเทียมใยพืช ที่ผลิตจากการแปรรูปพืชผักผลไม้เหลือใช้ สามารถทดแทนหนังสัตว์ได้จริง
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo2_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
“พอผลิตภัณฑ์เป็นกระเป๋า แล้วมีจุดเด่นที่การใช้หนังที่ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ เราก็ตกลงกันว่าจะตั้งชื่อแบรนด์ว่า ‘Keep’ หมายถึงประโยชน์ในการใช้เก็บของ และโยงไปถึงคุณสมบัติของวัสดุที่ไม่ก่อมลพิษเหมือนกับหนังเทียมประเภทอื่น เป็นการเก็บรักษาโลกใบนี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไปอีกนาน ๆ” ‘แตมมี่’ จากฝ่าย Marketing ระบุ
ส่วน ‘หยก’ ทีม PR ของแบรนด์ เสริมว่า “ที่เราเลือกให้ผลิตภัณฑ์เป็นวัสดุธรรมชาติ มีขั้นตอนการผลิตที่คลีนที่สุด และทำร้ายโลกใบนี้ให้น้อยที่สุด เพราะโลกคือที่ที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ จึงอยากรักษาเอาไว้ และช่วยกันทำให้ดีขึ้น อย่างที่ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าวันนี้โลกเราต้องเจอกับปัญหามากมาย ทั้งภาวะโลกร้อน ทะเลเต็มไปด้วยขยะพลาสติก ไฟป่า PM 2.5 หรือมีสัตว์มากมายที่ต้องถูกทำร้าย ดังนั้น แม้เป้าหมายของธุรกิจการค้าจะเป็นการมุ่งไปที่ผลกำไร แต่ก็อยากให้ทุกคนคำนึงว่าการทำกำไรนั้นก็ไม่ควรทำให้โลกเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก”
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo3_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
15% สมทบ กสศ. หวัง ‘การศึกษา’ เป็นเครื่องมือเปลี่ยนแปลงสังคม
‘ออม’ เล่าว่า หลังจากที่โปรเจคท์เริ่มราวเดือนพฤศจิกายน 2564 จน Keep ได้ปิดรอบแรกของการขายเมื่อสิ้นสุดปีการศึกษาในเดือนกุมภาพันธ์ ทีมงานทุกคนมีความเห็นตรงกันว่า จะยกรายได้ 15% ของแบรนด์ ร่วมกับ 45% จากค่า Commission พนักงาน คิดเป็นเงินทั้งหมด 10, 069 บาท มอบให้กับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อนำไปทำภารกิจในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยเชื่อว่าสังคมจะดีขึ้นได้ ถ้า ‘โอกาส’ และ ‘คุณภาพการศึกษา’ ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ของประเทศในวันหนึ่ง
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo4_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
‘หยก’ เสนอแนวคิดเรื่องคุณภาพการศึกษาว่า “แม้เติบโตในกรุงเทพ ฯ แต่พื้นเพครอบครัวหนูมาจากต่างจังหวัด ทำให้มีโอกาสเดินทางบ่อย และเห็นว่าในหลายพื้นที่ยังมีคุณภาพการศึกษาที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่มาก และสิ่งนี้เองที่สะท้อนถึงคุณภาพชีวิตผู้คน หนูเชื่อว่าถ้าเด็กทุกคนได้รับโอกาสมีการศึกษาที่ดี ไม่เพียงแต่เขาจะดูแลตัวเองได้ แต่มันจะส่งผลต่อการเติบโตทางความคิดไปสู่ระดับ Critical Thinking หรือการคิดเชิงวิพากษ์ รวมถึงการใช้เหตุผลในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งจะมีส่วนอย่างมากในการที่ทำให้ประชากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
ส่วน ‘ทับทิม’ กล่าวว่า “นอกจากชีวิตในโรงเรียน ครอบครัวและโรงเรียนยังพาเราไปเห็นความแตกต่างของชีวิต เช่นในสถานเด็กกำพร้า หรือในบ้านพักผู้สูงอายุ และพ่อกับแม่จะบอกเราเสมอว่า วันนี้เรามีโอกาสได้เรียน มีโอกาสได้ต่อยอดชีวิต ดังนั้น ภารกิจหนึ่งที่เราต้องทำคือส่งต่อโอกาสออกไป ซึ่งเราคิดว่าเรื่องการศึกษาคือพื้นฐานสำคัญที่สุดในการนำพาชีวิต ไม่ว่าจะการเรียนต่อในระดับสูง หรือจะเป็นการเรียนสายอาชีพก็ตาม เราเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยเหลือผู้คนได้จริง ๆ”
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo6_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
ทางด้าน ‘แตมมี่’ กล่าวว่า “หลายคนในสังคมอาจยังไม่รู้ว่าในความแตกต่างของโอกาสในชีวิต มีใครหลายคนที่เขามีความตั้งใจ มีความอยากรู้ อยากเรียน อยากได้โอกาสในการพัฒนาตัวเอง โดยทั้งที่จริงแล้วเขาเองก็มีความสามารถ หรือมีศักยภาพภายในที่ดีกว่าคนอีกมากมายซึ่งมีโอกาสมากกว่าเขาเสียอีก ดังนั้น การมอบเงินส่วนหนึ่งจากผลิตภัณฑ์ Keep ครั้งนี้ พวกเราหวังว่าจะเป็นเงินทุนก้อนหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้คนที่แตกต่างหลากหลายเหล่านี้ มีโอกาสทางการศึกษามากขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงประเทศของเราในระยะยาว”
สำหรับผู้สนใจ ‘Keep’ แบรนด์กระเป๋าหนังเทียมที่มีให้เลือก 4 สี จากน้อง ๆ สาธิตเกษตรศาสตร์ IP สามารถติดตามได้ที่ Instargram: IG@keep.ku (Bkk.Thailand) หรือ Line: @134osnii
![](https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/04/photo5_พวกเราเชื่อว่าการศึกษาคือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสังคม.jpg)
ส่วนหลังจากได้อันดับ 1 รายการ JA Thailand Company Program น้อง ๆ จะได้ไปลุ้นกันต่อในระดับนานาชาติ กับการแข่งขัน JA Asia Pacific ในเดือนพฤศจิกายน 2022 นี้ ขอเชิญทุกคนมาร่วมเป็นกำลังให้กับ ‘Keep’ ไปด้วยกัน