โรงเรียนวัดละมุด (ร.ส.พ.ราษฎร์บำรุง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นอีกโรงเรียนที่มองเห็นถึงปัญหาความรู้ถดถอยจากการเรียนรู้ช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา พร้อมเริ่มวางแนวทางรับมือเพื่อไม่ให้ผลกระทบบานปลายจนสร้างความเสียหายในระยะยาวต่อไป
เริ่มตั้งแต่การประเมินความรู้ของเด็กแต่ละคน พร้อมสอนซ้ำในเนื้อหาที่ยังไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินหน้าสอนบทเรียนต่อไป อีกด้านหนึ่งยังเปิดห้องเรียนพิเศษให้เด็กๆ ที่ยังเรียนตามเพื่อนไม่ทันได้กลับเข้ามาซ่อมเสริมความรู้จนพร้อมที่จะออกไปเรียนกับเพื่อนๆ ทั้งหมดเป็นความพยามที่ต้องการให้เด็กทุกคนเกิดการเรียนรู้เต็มศักยภาพของตัวเอง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ดวงภัทร สุนิมิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดละมุด เล่าให้ฟังว่า จากที่ได้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง โดยมีมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮมเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น “สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ การเปลี่ยนวิธีการสอนโดยเน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง รู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ทำให้ได้คิดมากขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้น เด็กสามารถนำไปใช้ระหว่างเรียนออนไลน์หรือออนแฮนด์ เป็นประโยชน์มากกับพื้นฐานการเรียนรู้ด้วยตัวเอง”
Learning Box ที่ปรับตามตัวชี้วัด
การสอนที่เน้น Acitve Learning ตามกลุ่มสาระวิชา
โควิดรอบแรกคุณครูเองก็ได้ปรับรูปแบบการสอน มาเป็นแบบออนแฮนด์ที่เน้นให้เด็กลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง พอมาโควิดรอบที่สองต้องปิดเรียนทั้งเทอม เด็กเริ่มชินกับการเรียนแบบนี้แล้ว รู้จักค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง โดยผู้ปกครองคอยมีส่วนร่วมอำนวยความสะดวก ร่วมกับการใช้กล่องเรียนรู้ หรือ Learning Box
“สำหรับ Learning Box จะออกแบบให้เข้ากับการเรียนออนแฮนด์ เดือนหนึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ วิชากลุ่มสาระหลัก 5 วิชา และอีกส่วนเป็น STEAM Design Process ที่นักเรียนจะนำอุปกรณ์มาทำกิจกรรมใบงาน โดยดัดแปลงจากต้นแบบของทางสตาร์ฟิช ซึ่งจะเน้นประเมินสมรรถนะ แต่ของเราจะพะยายามประเมินทั้งสมรรถนะและตัวชี้วัด ขณะที่กระบวนการเรียนรู้ก็ปรับให้เป็นแบบ Active Learning ตามกลุ่มสาระวิชา ให้เด็กวิเคราะห์แก้ปัญหา
“คุณครูจะออกแบบการเรียนโดยดูตัวชี้วัดว่าจะเน้นตัวไหนก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเข้าร่วมโครงการ TSQP ทำให้ได้รับการโค้ช ช่วยให้การสอนเข้าที่เข้าทางมากขึ้น รวมทั้งมี PLC ที่เข้มแข็ง คุณครูทุกคนก็กระตือรือร้น ต้องการจะเห็นความเปลี่ยนแปลง ทำให้ภาพรวมดีขึ้น”
สอนซ้ำช่วงเปิดเทอม
ประเมินความพร้อมก่อนเดินหน้า
โรงเรียนวัดละมุดมีนักเรียนประมาณ 140 คน เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 2 ถึง ป.6 ช่วงล็อกดาวน์เปิดสอนออนแฮนด์เป็นหลักและเป็นสอนออนไลน์ระดับชั้น ป.4-6 พร้อมทั้งมีคิวอาร์โค้ดให้เข้าไปดูคลิปเสริมจากที่เรียนออนแฮนด์ นักเรียนที่มีความพร้อมสามารถเข้ามาเรียนออนไลน์ พูดคุยซักถามกับคุณครูได้ ซึ่งคุณครูจะนัดหมายล่วงหน้าว่าวันไหนจะเรียนวิชาอะไร ช่วงเวลาไหน โดยคำนึงถึงความสะดวกของนักเรียน
แต่สุดท้ายการเรียนออนแฮนด์หรือออนไลน์ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับการเรียนรู้ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่พบว่ามีปัญหาเรื่องความรู้ถดถอย ทำให้เมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ คุณครูจะต้องทบทวนความรู้เดิม ก่อนที่จะเดินหน้าสอนเรื่องต่อไป
“ช่วงเปิดเทอมจะสอนซ้ำเดิมก่อน แล้วค่อยดูว่าจะเริ่มไปข้างหน้าไหวหรือไม่ โดยให้อิสระคุณครูแต่ละห้องเป็นผู้ประเมินว่าเด็กเรียนรู้ตามตัวชี้วัดได้ไหม ตัวไหนที่สำคัญก็ต้องสอนให้ได้ก่อน ต้องช้อนกลับมาให้ได้ ก่อนที่จะไปบทเรียนต่อไป
“สำหรับเด็กที่ยังเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ก็จะแยกให้มาเรียนห้องเรียนพิเศษ ซึ่งไม่ได้บอกเขาว่าที่แยกออกมาเพราะอะไร แต่จะบอกว่าเป็นเพราะต้องจำกัดจำนวนนักเรียนเพื่อมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงโควิด อย่าง ป.3 มี 25 คน ก็แยก 6 คนออกมาสอนต่างหาก เพราะหากเรียนรวมกันกับเพื่อนคนอื่น ก็อาจจะดึงกัน ไม่ได้เป็นไปตามศักยภาพที่ควรจะเป็นของเด็กแต่ละคน
“ห้องที่เปิดเพิ่มขึ้นมา พี่จะเป็นคนรับผิดชอบสอนเอง ไม่ให้กระทบกับงานของคุณครูที่เขามีตารางสอนอยู่แล้ว เน้นไปที่วิชาภาษาไทยก่อน ให้เขาเริ่มอ่านออก ตอนนี้อ่านได้นิดหน่อยก็ดีใจแล้ว ดีกว่าไปเรียนร่วมกับเพื่อคนอื่นแล้วทำอะไรไม่ได้เลย เราต้องไม่ปล่อย ต้องทำให้เด็กทุกคนเดินไปข้างหน้าได้ ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เขามีค่ากับเราทุกคน มีวิธีไหนที่ทำได้ก็ต้องทำ พอถึงวันหนี่งที่เขาเริ่มรู้เรื่อง ก็จะสามารถกลับไปเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ได้ต่อไป” ผอ.ดวงภัทรกล่าว