ปี 2018….ปีที่วุ่นวายแต่ได้ให้บทเรียนมากมายแก่ แอนดริว มาโลนี่ ครูชั้นประถมผู้มีประสบการณ์กว่า 5 ปี ของโรงเรียนมาแรนการู ที่อยู่ทางตะวันตกของออสเตรเลีย
มาโลนี่ ได้ดำเนินการจัดเตรียมห้องเรียนพิเศษ 1 ใน 3 ห้องที่ออกเเเบบไว้ให้กับคลื่นความถี่สมองของนักเรียนออทิสติก และเขายังบอกอีกว่า ในปีนี้จะมีการแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความก้าวหน้าของเขา
“แน่นอนว่ามันเป็นปีที่เราจะสะท้อนให้เห็นว่า เราจะก้าวไปข้างไหนได้มากแค่ไหน และทำให้ดีขึ้นเพียงใด” เขาพูดเสริม “เรารู้ว่ามันจะเป็นปีที่ได้มองย้อนกลับไป และร่วมจดจำวันเวลาร่วมกัน สิ่งนี้จะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอนาคต”
นักเรียนที่ได้ใช้หลักสูตรนี้ ต่างก็ได้ให้ความสำคัญอย่างมาก ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2018 ที่ผ่านมา และยังได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งใช้เป็นแนวทางในด้านบริบททางสังคม เพื่อที่จะสร้างความยืดหยุ่นและเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับนักเรียนอีกด้วย
“ข่าวมากมายเกี่ยวกับหลักสูตรในโรงเรียนมาแรนการู ได้ถูกเผยแพร่อย่างมาก ขณะนี้มีผู้ปกครองรอต่อแถวเข้าคิวให้บุตรหลานของตนที่เป็นออทิสติก ได้เข้าเรียนในโรงเรียนนี้อย่างกระตือรือร้น มันคงจะดีที่จะได้ช่วยได้อย่างทั่วถึง แต่ทว่า เรามีพื้นที่จำกัด และมันไม่ใช่หลักสูตรที่จะได้เห็นผลลัพธ์ทันตาภายใน 2-3 เดือน เพราะมันต้องใช้เวลา ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การทำเช่นนี้จะใช้เวลาราว ๆ 12 – 24 เดือน หรือ 1 – 2 ปี”
“การตระหนักในกลุ่มออทิสติกและเด็กที่มีความต้องการพิเศษกำลังเติบโตขึ้น ในด้านการพัฒนาหลักสูตรและด้านสังคมพื้นฐาน หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในปีนี้ คือการเปิดตัว ACARA (Australian Curriculum Assessment and Reporting Authority) สำนักงานรายงานและการประเมินผลหลักสูตรแห่งออสเตรเลีย ซึ่งทำหน้าที่ในการพัฒนาและจัดทำหลักสูตรการศึกษาในระดับการศึกษาภาคบังคับของเครือรัฐออสเตรเลีย ตลอดจนการจัดการประเมินผลและการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติและการรายงานผลการจัดการศึกษาในภาพรวมของเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งทำหน้าที่จัดการสอบประเมินและวัดผลสมรรถนะในการรู้หนังสือและคำนวนของนักเรียนทั่วประเทศ พวกเขายกเลิกหลักสูตรเก่าและได้นำหลักสูตรใหม่จาก ACARA ไปใช้จนเห็นผลลัพธ์ภายใน 2 ปี”
“บางครั้งความเข้าใจแบบผิดของตัวนักเรียนเอง อาจเป็นไอเดียเล็ก ๆ นำมาสู่บทเรียนที่จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงปัญหา, อุปสรรคและวิธีแก้ไขมัน รวมถึงวิธีที่จะทำให้มันสำเร็จ เรามีหลักสูตรที่มีการจัดการที่ดีเยี่ยมและยังช่วยพัฒนาความสามารถส่วนบุคคลและสังคมรอบตัวอีกด้วย เราจะใช้สิ่งนั้นวัดความก้าวหน้าของนักเรียน รวมถึงวิธีที่พวกเขาใช้ในสังคม แต่การพยายามหาปริมาณและเป้าหมาย เพื่อช่วยปรับปรุงตัวนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก”
“วิธีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก และเห็นได้ชัดว่า ทุกอย่างจับจ้องมาที่เรา และเรากำลังตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้รวบรวมข้อมูลทางด้านกลยุทธ์ที่เราใช้มาอย่างเพียงพอแล้ว รวมถึงข้อมูลพฤติกรรม การควบคุม ติดตามความคืบหน้าของนักเรียนแต่ละคน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นักเรียนที่ใช้หลักสูตรนี้ แต่เป็นความซับซ้อนทางสังคมในห้องเรียนที่พวกเขาต้องเผชิญ และดูเหมือนว่ามาแรนการูมีการรับมือและแผนการที่มั่นคงภายในปี 2019 นี้อยู่”