รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดเผยแผนการจัดสรรงบประมาณ 122,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อเพิ่มจำนวนติวเตอร์และที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ โดยการดำเนินการในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการเพื่อแก้ภาวะสูญเสียการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนจากการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานแถลงการณ์จากทำเนียบขาว โดยมีเนื้อหาระบุว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังเตรียมแผนการจัดสรรงบประมาณ 122,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มจำนวนติวเตอร์และที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อแก้ภาวะสูญเสียการเรียนรู้และช่วยนักเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับมัธยมปลายที่มีปัญหาเรียนไม่ทันเนื่องจากการปิดโรงเรียนอย่างยาวนานจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19
ไบเดน กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานในครั้งนี้เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากนักเรียนทั่วสหรัฐฯ จะต้องได้รับการสนับสนุน ได้รับการมองเห็น ได้รับการรับฟัง และได้รับความเข้าใจจากบรรดาผู้ใหญ่ในโรงเรียน ชุมชน และครอบครัวมากขึ้นกว่าเดิม
แถลงการณ์ของทำเนียบขาวยังระบุถึง มาตรการและขั้นตอนการดำเนินงานโดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนติวเตอร์และที่ปรึกษาทางจิตวิทยาประจำโรงเรียนจำนวน 250,000 ตำแหน่งให้ได้ภายในช่วงเวลา 3 ปีต่อจากนี้ โดยทาง AmeriCorps และกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ พร้อมกับองค์กรด้านบริการการศึกษาที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะร่วมมือกันในการจัดหาบุคลากรครูและนักจิตวิทยามาเติมเต็มบทบาทที่ต้องการดังกล่าว
นอกจากนี้ ภายใต้แผนการดำเนินการดังกล่าว ทางการสหรัฐ ยังเตรียมการก่อตั้ง National Partnership for Student Success ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรด้านการศึกษาระดับชาติและองค์กรพัฒนาเยาวชนชั้นนำที่จะขยายโครงการกวดวิชาและการให้คำปรึกษาไปทั่วประเทศ
Miguel Cardona รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าวว่า การประกาศในครั้งนี้ พร้อมกับการเปิดตัว National Partnership for Student Success จะช่วยให้นักเรียนจำนวนมากเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ และมีที่ปรึกษาวัยผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้ ซึ่งพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการด้านวิชาการ อารมณ์ สังคม และสุขภาพจิตของนักเรียน
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยผลการศึกษาที่พบว่า หลังจากการระบาดใหญ่นักเรียนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีทักษะด้านการอ่านและวิชาคณิตศาสตร์ช้ากว่าปกติ 2-4 เดือน โครงการครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเรียนไม่ทันของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กในกลุ่มยากจน ที่พบว่ามีปัญหาเรียนไม่ทันมากที่สุด
ที่มา : Biden administration takes steps to address pandemic learning loss