โอกาสและรอยยิ้มของแสงดาว โอเปอร์เรเตอร์สาววีลแชร์

โอกาสและรอยยิ้มของแสงดาว โอเปอร์เรเตอร์สาววีลแชร์

ขอเรียกชื่อเธอว่า..แสงดาว

ถ้าใครโทรศัพท์เข้าไปที่มูลนิธิพระมหาไถ่พัทยา จ.ชลบุรี ตอนนี้ จะได้ยินเสียงใสๆ ของน้องแสงดาว เป็นผู้รับสาย เธอได้ทำงานที่นี่ทันทีหลังเรียนจบจากวิทยาลัยการเทคโนโลยีพระมหาไถ่พัทยา จ.ชลบุรี โดยได้รับทุนการศึกษา ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ จากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ.

น้องแสงดาว เป็นหนึ่งในนักศึกษารุ่นแรกของทุนนี้ ที่มีนักศึกษาซึ่งเป็นผู้เรียนที่มีความต้องการพิเศษ ได้รับทุนและเรียนจบแล้วในระดับ ปวส.จำนวน 62 คน ได้งานทำเรียบร้อยแล้ว 16 คน และแสงดาว ก็คือหนึ่งในนั้นด้วย เธอรู้สึกภูมิใจในชีวิตวันนี้มาก

แสงดาวในวัย 22 ปี เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนอยู่บนรถเข็นวีลแชร์มาตั้งแต่เด็ก เบื้องหลังรอยยิ้มสดใสของเธอในวันนี้ มีเรื่องราวเบื้องหลังที่ฟังดูน่าเศร้าเป็นแบ็คกราวด์อยู่ แสงดาวเกิดมาด้วยร่างกายที่ไม่เหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ และครั้นเมื่อเธออายุได้เพียง 3 ขวบ พ่อกับแม่ก็มาแยกทางกัน แต่แสงดาวก็เล่าเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม

“หนูมีพี่น้องที่เกิดพ่อแม่เดียวกัน 2 คนค่ะ หนูเป็นคนโต พอพ่อแม่เลิกกัน พ่อแม่ก็ไปมีครอบครัวใหม่ หนูเลยได้น้องเพิ่มมาอีก 4 คน ฝั่งพ่อ 2 คน ฝั่งแม่อีก 2 คน ก็รู้สึกอบอุ่นดีค่ะที่มีพี่น้องเพิ่ม ไม่ได้รู้สึกเสียใจ น้องคนสุดท้องหน้าตารูปร่างเหมือนหนูเลยค่ะ อ้วนๆ กลมๆ ตุ้ยนุ้ยเหมือนหนูนี่ละค่ะ แต่ว่าน้องเดินได้”

หลังครอบครัวแหว่งกลาง แสงดาว ใช้ชีวิตวัยเด็กส่วนใหญ่อยู่กับพ่อที่จังหวัดทางภาคอีสาน เมื่อเริ่มเรียนชั้น ปวส.จึงย้ายมาอยู่กับแม่ที่พัทยา การได้ไปมาหาสู่กันทั้งบ้านพ่อ บ้านแม่ และความสัมพันธ์กับน้องๆ ทำให้แสงดาวไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตขาดความอบอุ่นแต่อย่างใด เธอทำความเข้าใจชีวิตได้ดี มีเพียงร่างกายเท่านั้น ที่อาจเป็นอุปสรรคขวางกั้นทางเดินของชีวิต แต่สิ่งนี้ก็มิได้ทำให้แสงดาวย่อท้อ เธอออกแบบชีวิตให้อยู่ในขอบเขตของความสุขได้ แม้จะมีไม่เหมือนคนอื่นก็ตาม

แสงดาว บอกว่า เธอคงจะเดินมาถึงจุดที่น่าภาคภูมิใจนี้ไม่ได้ หากไม่มีความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในระหว่างเล่าเรียน เพราะพ่อแม่มีรายได้น้อย สมาชิกของครอบครัวก็มีถึง 6 ชีวิต เธอเกือบจะไม่ได้เรียนต่อในระดับ ปวส.ตามที่วาดฝันไว้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือค่าเล่าเรียนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เธอเล่าถึงเรื่องนี้ด้วยรอยยิ้ม

“ดีใจมากค่ะตอนที่รู้ว่า กสศ.ให้ทุนเรียน เพราะตอนนั้นที่บ้านไม่มีเงินส่งให้เรียน พอได้ทุนจาก กสศ.ทางบ้านก็ไม่ต้องมารับภาระมาก นอกจากทุนแล้ว การได้มาอบรมความรู้เสริมเรื่องการสร้างอาชีพ การพัฒนาบุคลิกภาพในพิธีปัจฉิมนิเทศที่ กสศ.จัดให้ ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มและมีความมั่นใจที่จะออกไปทำงานร่วมกับคนทั่วไปมากขึ้นค่ะ”

แสงดาว ได้รับค่าตอบแทนจากงานที่ทำในตำแหน่งพนักงานโอเปอเรเตอร์ เดือนละ 9,000 บาท เธอส่งเงินให้พ่อ ให้เงินแม่ มีเงินซื้อขนมให้น้องๆ และสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระใคร

“ทุกวันนี้เช่าบ้านอยู่กับเพื่อนค่ะ ช่วยกันออกค่าเช่าบ้าน รู้สึกดีใจมากที่ได้ทุนจาก กสศ.และเรียนจบมีงานทำแล้ว ได้ส่งเงินให้ที่บ้านด้วยค่ะ ส่วนอนาคตไม่อยากคิดไกลค่ะ อยากมีความสุขกับวันนี้ อยากทำวันนี้ให้ดีที่สุด ได้ดูแลพ่อแม่ ดูแลน้อง แค่นี้ก็สบายใจแล้วค่ะ”

แสงดาวที่เปล่งประกาย เกิดขึ้นได้ด้วยโอกาส เธอฝากขอบคุณไปถึงทุกๆ คนที่มีส่วนช่วยให้สามารถยืนหยัดได้อย่างมีเกียรติในวันนี้ ไม่ว่าชีวิตจะทุกข์ยากเพียงใด เมื่อคนยังไม่ยอมแพ้ แสงดาวเชื่อว่าโอกาสชนะก็จะยังมีอยู่เสมอ