
สื่อการเรียนการสอน ฯลฯ) รวมถึงรถรับส่งอย่างน้อยวันละครั้ง

สถานการณ์ของโรค COVID-19 แบบตระหนักแต่ไม่ตระหนก รวมถึงการดำเนินงานและควบคุมการระบาดในสถานศึกษา โดยผ่านสื่อต่างๆ ตามความเหมาะสมของบริบท สภาพแวดล้อม และความพร้อมในพิ้นที่ตัวเอง2. เน้นย้ำให้ผู้ปกครองแจ้งให้สถานศึกษาและหน่วยงาน
สาธารณสุขทราบหากมีสมาชิกในครอบครัวติดโรค COVID-19 และให้เด็กหยุดเรียนอยู่บ้านเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันหากมีข้อสงสัย หรือตรวจพบความเสี่ยงต่อการติดโรค COVID-19 สามารถแจ้งได้ ตามช่องทางเหล่านี้
– สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
– ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสถานศึกษา
ประสบภัยพิบัติ กระทรวงศึกษาธิการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
โทร 02-628-6400 หรือ 02-628-6397

1. ควรมีการวางแผนล่วงหน้าร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพในสถานศึกษา พร้อมทั้งปรับปรุงรายชื่อบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
หากพบว่ามีนักเรียน และเจ้าหน้าที่ที่มีไข้ (อุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาฯ) หรือมีประวัติสงสัยป่วยด้วยโรค COVID-19 ควรแยกออกจากบุคคลอื่น และเตรียมห้องพยาบาลพิเศษไว้ให้ต่างหาก พร้อมระวังไม่ให้เกิดการตีตราหรือบูลลี่ เหมารวมว่าคนกลุ่มนี้ไม่ดีต่อสังคม
2. ปรับนโยบายของโรงเรียนตามความเหมาะสม ในส่วนของการมาเรียนของนักเรียนและการมาทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงการลาป่วย ทั้งหมดนี้ควรมีการยืดหยุ่น ที่สำคัญปฏิทินการศึกษาก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะการปิดภาคเรียนและการสอบ
3. กระตุ้นให้เด็กนักเรียนซักถามพร้อมสนับสนุนให้สามารถพูดคุยกับครูผู้สอนได้เสมอ และให้ข้อมูลอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ด้วยภาษาและวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก
4. กลุ่มเด็กเปราะบางก็ต้องมีการดูแลเอาใจใส่เช่นกัน เช่น ควรมีระบบการสอดส่อง ติดตามดูแลเด็กกลุ่มนี้
อาจเป็นการโทรถามไถ่ เยี่ยมบ้าน (แบบมีระยะห่าง) เป็นประจำระหว่างปิดภาคเรียน เป็นต้น

ในกรณีของการขาดเรียน/งาน การลาป่วย หรือการปิดโรงเรียนชั่วคราว สถานศึกษาจะต้องหาวิธีให้นักเรียน/นักศึกษาสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำได้ ดังนี้
1. ใช้กลยุทธ์การเรียนออนไลน์ (e-Learning) ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แท็ปเล็ต ที่มีการใส่ข้อมูลแผนการจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนแต่ละชั้นปี
2. มอบหมายให้นักเรียนอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนและทำแบบฝึกหัดที่บ้าน
3. ให้ครูติดตามการศึกษาทางไกลของนักเรียนเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์
4. ทบทวนหรือพัฒนากลยุทธ์สำหรับการเรียน การสอนเชิงเร่งรัด (Accelerated Education)
ในกรณีที่สถานศึกษาและเด็ก มีข้อจำกัดด้าน การเข้าถึงเทคโนโลยี คุณครูอาจปรับเป็นการติดต่อทางโทรศัพท์ หรือเยี่ยมบ้านโดยมีการรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
ส่วนการเรียนการสอนก็อาจปรับเป็นการ เผยแพร่เนื้อหาวิชาการทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือเอกสารการเรียนรู้ (Learning Box Set) แทน