เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 โครงการจัดการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จังหวัดขอนแก่น และคณะทำงานการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ หรือ Area-based Education (ABE) ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาการศึกษาเพื่อความเสมอภาคจังหวัดขอนแก่น “ขอนแก่นเมืองแห่งโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและอาชีพ (City of Hope) ครั้งที่ 1” ซึ่งประกอบไปด้วยภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาชน รวม 65 หน่วยงาน เพื่อพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบาย 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การพัฒนาเด็กปฐมวัยเติบโตอย่างมีคุณภาพ 2) การสร้างโอกาสการเรียนรู้และการมีงานทำของเด็กนอกระบบ 3) การจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นเพื่อป้องกันเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา และ 4) ขอนแก่นเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) เมืองแห่งโอกาส เพื่อหาฉันทามติและจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายต่อหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างความเสมอภาคและแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาของจังหวัดขอนแก่น
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น ได้รับนโยบายส่วนหนึ่งจากนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มอบหมายกับหน่วยงานด้านการศึกษาขอนแก่นว่าเด็กต้องเรียนดี มีความสุข รวมถึงภาครัฐต้องสนับสนุนเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถ ไม่เก็บคนเก่งไว้ในห้องเรียน และส่งเสริมเรื่องการศึกษาเพื่ออาชีพ เป็นต้น ซึ่งในการประชุมสมัชชาในครั้งนี้ นับว่าเป็นทิศทางที่ดีที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาและบูรณาการงานร่วมกัน เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้เกิดขึ้นในจังหวัดขอนแก่นร่วมกัน
รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนสมัชชาจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า กระบวนการสมัชชาที่นำมาใช้ครั้งนี้เป็นกระบวนการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ และเป็นพื้นที่กลางให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้มีส่วนร่วมตามแนวทางประชาธิปไตย สู่การสร้างการความเป็นเจ้าของร่วมกัน ตั้งแต่ร่วมสะท้อนปัญหา ร่วมกำหนดเป้าหมายและทิศทาง ร่วมพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ตลอดจนสานพลังขับเคลื่อนหนุนเสริมซึ่งกันและกัน
“กรอบแนวคิดสมัชชาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษามี 4 ประการ คือ 1) แนวคิดสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา สานพลัง 3 ภาคส่วน คือ ภาครัฐ ภาควิชาการและวิชาชีพ ภาคเอกชนและประชาสังคม รวมถึงแนวคิดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) 2) ยกระดับเวทีสานเสวนาขอนแก่น สู่การจัดทำสมัชชาซึ่งเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 3) มุ่งเน้นการพัฒนาและการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะของพื้นที่ไปพร้อมกัน โดยมีหน่วยงานเจ้าของประเด็นเป็นแกนหลักขับเคลื่อน และ 4) สมัชชาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นกลไกหนึ่งของภาครัฐเพื่อให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ” รศ.ดร.กิตติชัย กล่าว
จากนั้น ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร กสศ. ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘การขับเคลื่อนความเสมอภาคทางการศึกษาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน’ ว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีพลังในการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสของทั้งจังหวัด รวมถึงเด็กและเยาวชน
แนวคิด ‘ขอนแก่นเมืองแห่งโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและอาชีพ (City of Hope)’ เป็นคำที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ ความหวัง และสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ซึ่งขอนแก่นมีการขับเคลื่อนอย่างชัดเจนเป็นระบบ และมีการทำงานร่วมกับ 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เกิดกลไกการทำงานของระบบราชการที่เข้มแข็ง สามารถเชื่อมโยง บูรณาการ และส่งต่อกันได้
นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่อยู่นอกระบบการศึกษาถึง 19,000 คน (ข้อมูลจากสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) นับว่าเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องดูแลและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้อย่างลุล่วงด้วยตัวจังหวัดเอง และในวันนี้จังหวัดขอนแก่นมีสมัชชาการศึกษาเพื่อความเสมอภาค ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนงานเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา และจะเป็นต้นแบบให้กับอีก 76 จังหวัด ต่อไปได้
สำหรับการพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายใน 4 ประเด็น จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่นและขอนแก่นพัฒนาเมือง
ทั้งนี้ ร่างมติที่ได้รับการพิจารณาในแต่ละห้องย่อยจะถูกนำมารวบรวมเป็นฉบับเดียวเพื่อให้ที่ประชุมได้แสดงความเห็น และรับรองมติทั้ง 4 ระเบียบวาระ เพื่อพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยหลังจากนี้ภาคีเครือข่ายสมัชชาฯ จะได้จัดตั้งหน่วยงานหลักเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม ประสานภาคีเครือข่ายเพื่อการทำงานเชิงรุก พัฒนากลไก ระบบข้อมูล และเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ประเมินผล สร้างการรับรู้ และเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอและให้คำปรึกษากับเด็กและเยาวชนกลุ่มเปราะบาง
ทางด้าน รศ.ดร.กิตติชัย กล่าวสรุปสาระสำคัญขอบกรอบทิศทางนโยบายไว้ว่า การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ขอนแก่นเมืองแห่งโอกาส เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและอาชีพ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบและกลไกจากความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคสื่อสารมวลชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ มีพัฒนาการการเรียนรู้ตามช่วงวัย มีโภชนาการและสุขภาวะที่ดี
นอกจากนี้ เครือข่ายจะร่วมกันการค้นหา ดูแล และส่งต่อโอกาสทางการศึกษา การเรียนรู้ และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา ให้สามารถพัฒนาตนเองบนเงื่อนไขข้อจำกัด นำไปสู่การมีอาชีพและรายได้ ตลอดจนร่วมกันสร้างระบบนิเวศ บรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนทุกช่วงวัย บูรณาการทุนวัฒนธรรม ทุนท้องถิ่น นวัตกรรมเทคโนโลยี สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้