แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา
ผู้สื่อข่าวสาวชาวอินโดนีเซียผุดโครงการรับบริจาคสมาร์ทโฟนมือสอง เพื่อจัดส่งให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลของประเทศให้สามารถเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์ ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย และทำให้เด็กไม่สามารถไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ตามปกติ
Ghina Ghaliya นักข่าวซึ่งทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ระดับชาติ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ “โครงการสมาร์ทโฟนมือสองเพื่อน้องได้เรียนออนไลน์” ว่า เกิดขึ้นจากกาที่วันหนึ่งก็มีชายแปลกหน้าที่ม้กจะมาเก็บขยะที่บ้านของตนในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ที่เข้ามาขอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องเก่า เพื่อให้ลูกๆ ของเขาได้ใช้เรียนออนไลน์
“ผมไม่สนใจหากว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นจะมีสภาพที่ดูไม่ค่อยสวย ขอแต่ให้ลูกๆ สามารถใช้เรียนหนังสือที่บ้านได้ก็พอ” ชายแปลกหน้าคนดังกล่าวระบุ
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ Ghaliya ได้ฉุกคิดว่า ขณะที่ใครหลายคนมองว่าโทรศัพท์เครื่องเก่าของตนไร้ประโยชน์ใช้งานอีกต่อไป แต่ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องการโทรศัพท์มือสองเครื่องเก่ามาใช้งานเพื่อการเรียนเหมือนครอบครัวของชายคนดังกล่า
แนวคิดที่ว่านี้ ทำให้ Ghaliya ริเริ่มจัดทำโครงการช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เดิมที Ghaliya และเพื่อนนักข่าวอีก 11 คนได้รวมกลุ่มจัดตั้งโครงการอาสาในการจัดหาอาหรและเงินช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ในกรุงจาการ์ตาหลังไวรัสโควิด-19 ระบาดในพื้นที่ได้ไม่นาน ก๋อนจะริเริ่มโครงการจัดหาโทรศัพท์มือถือมือสองให้กับนักเรียนยากจน เมื่อพบว่ามีนักเรียนชาวอินโดนีเซียมากมายที่ไม่สามารถเรียนออนไลน์ในภาคการศึกษาใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดี หลังจากที่กลุ่มนักข่าวประกาศแนะนำโครงการช่วยเหลือเด็กยากไร้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยนอกจากจะได้รับบริจาคโทรศัพท์มือถือมือสองอย่างท่วมท้นแล้ว บางรายยังช่วยเหลือด้วยการบริจาคเป็นเงินสดแทน
เฉพาะในเดือนพฤศจิกายน Ghaliya และเพื่อนสามารถระดมรวบรวมโทรศัพท์มือถือได้มากกว่า 200 เครื่อง พร้อมเงินบริจาคอีกมากกว่า 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ใช้ซื่้อโทรศัพท์เพิ่มเติม รวมถึงจ่ายเป็นเงินค่าบริการอินเตอร์เน็ตสำรหับครอบครัวที่มีความจำเป็นอีกด้วย
รายงานระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน ทางกลุ่มได้มอบโทรศัพท์เกือบ 300 เครื่องให้แก่นักเรียนทั้งที่อยู่ในกรุงจาการ์ตาและปริมณฑล รวมถึงเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล อย่างเช่น ปาปัว ซึ่งเป็นจังหวัดทางตะวันออกสุดของประเทศ
Ghaliya กล่าวว่า การที่ตนและเพื่อนๆ ได้ช่วยให้เด็กนักเรียนหลายคนสามารถเข้าเรียนออนไลน์ได้ ถือเป็นความสุขอย่างที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เด็กๆ จะใช้โทรศัพท์มือถือเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในระหว่างการเกิดโรคระบาดใหญ่นี้
Deny Sayuti คุณพ่อของ Khaissyah Levi เด็กนักเรียนมัธยมปลายอายุ 16 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเดป็อก จังหวัดชวาตะวันตก ตัดสินใจเขียนจดหมายถึง Ghaliya เมื่อเดือนสิงหาคม ก่อนที่หนึ่งเดือนต่อมาครอบครัวจะได้รับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก่อนหน้านี้ Sayuti ต้องให้ลูกชายให้โทรศัพท์มือถือของตนเพื่อเรียนหนังสือ ทำให้ไม่สามารถทำงานคนขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวันได้
Sayuti กล่าวว่า ขณะลูกชายของตนสามารถเรียนออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น สบายใจมากขึ้น และยังสามารถติดต่อกับเพื่อนๆ และอาจารย์ของเขาได้โดยตรงอีกด้วย
ด้าน Qayran Ruby Al Maghribi เด็กชายวัย 11 ขวบ ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือของคุณพ่อเพื่อพูดคุยผ่านกล้องวิดีโอกับคุณครูในการรับการบ้านสัปดาห์ละสามครั้ง แต่บางครั้งเจ้าตัวก็ส่งการบ้านช้า เพราะต้องรอให้คุณพ่อกลับจากที่ทำงาน เพื่อที่จะใช้โทรศัพท์มือถือออนไลน์ส่งการบ้าน นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ Maghribi เรียนไม่ทันเพื่อน เนื่องจากต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยไปด้วย ซึ่งทำให้เขาเกิดความรู้สึกกดดัน ทว่า Maghribi ก็สามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เมื่อได้รับโทรศัพท์มือถือที่ส่งมาจากกลุ่มของ Ghaliya ซึ่งเจ้าตัวได้ให้คำมั่นว่าจะใช้โทรศัพท์เครื่องนี้เข้าเรียนออนไลน์ทุกวัน
ที่มา : Indonesians collect old phones to help students get online