กสศ. ห่วงโควิดระลอกใหม่ ก่อปรากฎการณ์ ‘Covid Slide’ เหตุปิดเรียนกระทบความต่อเนื่องด้านพัฒนาการเรียนรู้ ส่งผลความเหลื่อมล้ำการเรียนรู้เด็กในเมือง-ชนบท ถึง 2 ปีการศึกษา เดินหน้ามาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือเด็กเยาวชนด้อยโอกาส 28 พื้นที่สีแดง 1.43 แสนคน จัดแพ็คเกจการเรียนรู้ โรงเรียนปิดแต่ไม่หยุดการเรียนรู้ “ถุงยังชีพ – ระบบอาสาสมัครการศึกษา – กล่องดำทักษะในศตวรรษที่ 21”
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า จากฐานข้อมูล ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (iSEE) พบว่า ขณะนี้มีนักเรียนยากจนพิเศษในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกสังกัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19 ในพื้นที่ 28 จังหวัด จำนวน 143,507 ล้านคน สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทาง การศึกษาได้ติดตามศึกษาปรากฏการณ์ Covid-slide อย่างใกล้ชิด พบว่าการระบาดระลอกใหม่จะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาใน 2 ประเด็น 1.ปัญหาการหลุดออกจากระบบการศึกษา และ 2.ภาวะถดถอยด้านการเรียนรู้ โดยจะยิ่งขยายช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างเมืองและชนบทอีกมากกว่า 2 ปีการศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่ 28 จังหวัดที่มีการระบาดสูงสุด
ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กสศ. จึงได้จัดให้มีมาตราการเชิงรุกเพื่อเข้าถึงเด็กและเยาวชนกลุ่มยากจนด้อยโอกาสในพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้ม จำนวน 28 จังหวัด โดยจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษอย่างมีเงื่อนไข จำนวน 143,507 คน รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเด็กเยาวชนเป็นการพิเศษ ซึ่งจากการสำรวจความต้องการของเด็กเยาวชนในพื้นที่พบว่ามีปัญหาและความต้องเร่งด่วน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.กลุ่มเด็กเยาวชนยากจนในเขตเมืองที่ผู้ปกครองขาดรายได้ ทำให้เด็กกลุ่มนี้ต้องออกไปหางาน เช่น เก็บขยะขาย สิ่งจำเป็นในขณะนี้คือปัญหาปากท้อง ความอยู่รอด และยังขาดอุปกรณ์ในการป้องกันตัวเอง 2.เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง พบว่ายังขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต และอุปกรณ์การเรียนรู้ที่จำเป็น เนื่องจากหลายพื้นที่กลายเป็นพื้นที่ปิด ทำให้ครูไม่สามารถเข้าถึงเด็กได้ จึงกลายเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ 3.กลุ่มลูกแรงงานต่างด้าวในพื้นที่สีแดง จากการสำรวจพบว่า กลุ่มเด็กปฐมวัยขาดสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต อุปกรณ์การป้องกัน Covid-19 และในกลุ่มวัยเรียนประถมปลายขาดสื่อการเรียนรู้
“กสศ. ได้จัดแพ็คเกจความช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนเด็กเยาวชนกลุ่มเป้าหมายหนุนเสริมการทำงานของหน่วยงานในการศึกษา ประกอบด้วย 1.สนับสนุนกลไก อาสาสมัครการศึกษา ซึ่งเป็นอาสาสมัครช่วยจัดการเรียนรู้ในชุมชน เป็นตัวช่วยการทำงานของครูพร้อมกับบริหารจัดการอุปกรณ์ สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชนพร้อมๆ ไปกับการเฝ้าระวังความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา 2.จัดแพ็คเกจการเรียนรู้เนื่องจากโรงเรียนปิดแต่ไม่ให้หยุดการเรียนรู้ ทั้งในรูปแบบถุงยังชีพเพื่อการเรียนรู้ และกล่องดำทักษะในศตวรรษที่ 21 3.ถุงยังชีพและอุปกรณ์จำเป็นในการป้องกันการระบาด เบื้องต้นจะเน้นเด็กและเยาวชนในพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และพื้นที่เสี่ยงสูงอย่าง กทม. โดยจะมีการส่งมอบให้ถึงกลุ่มเป้าหมายในวันที่ 18 มกราคมนี้” ผู้จัดการ กสศ. กล่าว
นพ.สุภกร กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มแรงงานด้อยโอกาส แรงงานนอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ออกจากระบบการศึกษาหลังภาคบังคับ ซึ่งมีจำนวนรวมเกือบ 1 ล้านคน กสศ. มีมาตราการลดผลกระทบผ่านโครงการพัฒนาทักษะอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน โดยทำงานร่วมกับฐานชุมชนและจังหวัด รวม 194 หน่วยพัฒนาอาชีพ เพื่อใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนด้านการศึกษาในสถานการณ์ Covid-19 กสศ. ได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือเด็กเยาวชนด้านการศึกษาในภาวะวิกฤติ เพื่อให้จัดการดูแลช่วยเหลือเด็กนอกระบบและเด็กที่มีแนวโน้มหลุดออกนอกระบบการศึกษาได้อย่างทันท่วงที โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02 0795475 กด 8 ทั้งนี้คาดว่าในปี 2564 สถานการณ์เด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 จะรุนแรงขึ้น โดย กสศ. จะได้เฝ้าระวังเพื่อปรับมาตรการเป็นระยะๆ ให้เหมาะสม