ศธ. กสศ. และหน่วยงานการศึกษากว่า 14 หน่วยงาน ลง MOU สานพลัง ‘พาน้องกลับมาเรียน’ แก้เด็กหลุดระบบการศึกษาต้องเป็นศูนย์ ขณะที่นายกฯ ย้ำการสร้างโอกาสการศึกษาต้องเน้นทั้งโอกาสและคุณภาพการศึกษา พร้อมสนับสนุนดูแลชีวิตความเป็นอยู่ผู้ปกครอง
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ – พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการส่งเสริมโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา “พาน้องกลับมาเรียน” ระหว่าง 3 หน่วยงานหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
พร้อมด้วย 11 พันธมิตร ประกอบด้วยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรุงเทพมหานคร และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในพิธีเปิดว่า วันนี้เป็นวันสำคัญที่มีกิจกรรมต่อจากกิจกรรมวันครู ซึ่งได้ให้คำขวัญวันครูไปแล้วว่า “พัฒนาครู พัฒนาเด็ก เรียนรู้สู่อนาคต” ซึ่งต่อเนื่องกับสิ่งที่เราทำในวันนี้ และวันต่อๆ ไปด้วย การปฏิรูปการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องพัฒนาคนให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยที่เราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
กิจกรรมวันนี้เป็นกิจกรรมที่สำคัญ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้รู้สึกยินดีที่ทุกหน่วยงานราชการได้ให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสแก่เด็กและเยาวชน ทั้งเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา เด็กที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้ารับการศึกษา เพื่อให้ทุกคนได้รับการศึกษาที่ดีและมีมาตรฐานอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน
“พาน้องกลับมาเรียน” เป็นโครงการสำคัญ มีประโยชน์อย่างยิ่ง และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเราทราบดีว่ายังมีเด็กที่ตกหล่น เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาเป็นจำนวนมากกว่า 100,000 คน พวกเราทุกคนต้องช่วยกันทุกวิถีทางเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็ก เราต้องหาทางแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ
“วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ลงทุนสร้างทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ หากจะใช้เงินอย่างเดียวคงแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราไม่ได้มีเงินเพียงพอขนาดนั้น ฉะนั้นต้องหาวิธีการที่เหมาะสม บูรณาการงบประมาณที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เพื่อส่งเสริมภารกิจที่มีความสำคัญกับประเทศชาติ วันนี้ทุกคนได้ตกลงใจแล้วลงนามความร่วมมือกัน เป็นหมุดหมายสำคัญที่รัฐบาลจะทำเพื่อคนไทยและประเทศไทยต่อไป”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านทราบว่า การให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กนั้นเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เราจะต้องจริงจังด้วยวิธีการที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้เกิดผลสำเร็จที่วัดผลได้
การเรียนนั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ทั้งการเรียนในระบบและนอกระบบ ซึ่งมาตรฐานการสอนแต่ละโรงเรียนก็ไม่เท่ากัน ถ้าเรามีทุนให้เด็กกลับมาเรียนในโรงเรียนเดิมที่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ได้ ต้องพิจารณาตรงนี้ด้วย นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการคือสร้างโรงเรียนดี ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำให้เต็มที่ ถ้าเกิดความสำเร็จ ผลประโยชน์ย่อมเกิดขึ้นกับคนในชาติ
สิ่งสำคัญคือการทำให้นักเรียนมีมายด์เซตที่ดีในหลายเรื่อง ต้อง “เรียนรู้” ซึ่งมีหลายประการ เช่น เรียนรู้จากในห้องเรียน เรียนรู้จากนอกห้อง เรียนรู้จากออนไลน์ เรียนรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และนำมาคิด เพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเองและพัฒนาชุมชน
“สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการกับหน่วยงาน 11 หน่วยงาน ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการพาน้องกลับมาเรียน ถือเป็นงานที่ใช้พลังงานอย่างมาก แต่เชื่อมั่นว่าความทุ่มเท ความพยายามของทุกท่าน จะก่อให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมได้ ขออวยพรและเป็นกำลังใจให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงทุกประการ”