ยูนิเซฟเดินหน้าก่อสร้างโรงเรียนกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ

ยูนิเซฟเดินหน้าก่อสร้างโรงเรียนกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ

ที่มาภาพ : VOA News

แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

 

UNICEF เผยความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน เดินหน้าก่อสร้างโรงเรียนอย่างเป็นทางการในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกลุ่มตาลีบันรวมแล้วกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ

องค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือ UNICEF เปิดเผยว่า ความพยายามนานร่วมหลายสิบปีประสบผลสำเร็จเบื้องต้นแล้ว เมื่อกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถานเห็นชอบและยินยอมให้ UNICEF เข้าไปก่อตั้งโรงเรียนเพื่อให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน

ที่มาภาพ : twitter.com/SamMort9

Sam Mort หัวหน้าฝ่ายสื่อสารสนับสนุน และการมีส่วนร่วมของพลเมืองของ UNICEF ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะทำให้เด็กชายและเด็กหญิงอัฟกานิสถานมากถึง 140,000 คนสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ โดยการประเมินครั้งล่าสุดพบว่า มีเด็กในอัฟกานิสถานมากถึง 3.7 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่โรงเรียนได้

“ภายใต้ข้อตกลงที่เกิดขึ้น UNICEF จะให้การสนับสนุนการก่อตั้งห้องเรียนชุมชนรวม 4,000 แห่งใน จังหวัด Helmand, Kandahar, Uruzgan และ Faryab ซึ่งทั้งสี่จังหวัดนี้ล้วนอยู่ภายใต้การปกครองควบคลุมดูแล หรือได้รับอิทธิพลจากกลุ่มติดอาวุธตาลีบัน” Mort กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ของ UNICEF กล่าวว่า ปัจจุบันมีห้องเรียนชุมชนแบบไม่เป็นทางการในพื้นที่ 4 จังหวัดแล้ว 680 แห่ง ซึ่งการบรรลุข้อตกลงกับตาลีบัน จะทำให้สถานะของห้องเรียนชุมชนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและเพิ่มจำนวนขึ้นมาอยู่ที่ 4,000 แห่ง 

หัวหน้าฝ่ายสื่อสารฯ ของ UNICEF ประจำภูมิภาคเอเชียใต้กล่าวว่า ห้องเรียนชุมชนสามารถรองรับนักเรียนได้ห้องละ 35 คน และน่าจะเริ่มเปิดให้มีการเรียนการสอนได้ในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับการเปิดภาคการศึกษาใหม่ของอัฟกานิสถาน

ทั้งนี้ แผนการหลักของห้องเรียนชุมชนของ UNICEF คือการสร้างหลักประกันที่รับรองได้ว่าเด็กทุกคน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงในพื้นที่ห่างไกล สามารถเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้อย่างปลอดภัย

ที่มาภาพ : twitter.com/SamMort9

“ปัจจุบัน 60% ของเด็กในอัฟกานิสถานที่หลุดจากระบบการศึกษาคือเด็กผู้หญิง และสัดส่วนดังกล่าวยังเพิ่มขึ้นถึง 80% ในพื้นที่ห่างไกลที่ยากเข้าถึง” Mort เสริมว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นผลจากจุดเริ่มต้นที่ทาง UNICEF ได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับบรรดาแกนนำกลุ่มตาลีบันที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์เมื่อสองปีที่แล้ว ซึ่งกรุงโดฮาเป็นสถานที่ที่สำนักงานทางการเมืองของกลุ่มตาลีบันตั้งอยู่

โดยการพูดคุยเป็นการต่อยอดจากการสอบถามความต้องการของกลุ่มตาลีบันและชุมชนในพื้นที่นอกเเหนือจากบริการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอที่ทาง UNICEF ดำเนินการอยู่ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ซึ่งความจริงที่ว่ากลุ่มตาลีบันเป็นฝ่ายเอ่ยปากร้องขอการสนับสนุนในด้านอื่นๆ จาก UNICEF เพื่อช่วยให้เด็กมีชีวิตรอดและมีชีวิตที่ดีต่อไปนับเป็นช่วงเวลาของความก้าวหน้าอย่างแท้จริง

ด้าน Zabihullah Mujahid โฆษกของกลุ่มตาลีบันได้ออกมายืนยันถึงข้อตกลงและความร่วมมือกับ UNICEF ที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มตาลีบันแสดงความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นก้าวที่ดี และทางกลุ่มจะเตรียมการให้พร้อมสำหรับการก่อตั้งโรงเรียนชุมชนในพื้นที่ภายใต้การดูแลของกลุ่มตาลีบัน 

ขณะที่ทางหัวหน้าฝ่ายสื่อสารฯ ของ UNICEF กล่าวว่า ทางองค์การได้แจ้งให้กับกระทรวงการศึกษาธิการอัฟกานิสถานรับทราบแล้วว่าจะมีการขยายโรงเรียนไปยังพื้นที่ห่างไกลยากเข้าถึง และขณะนี้ ทางองค์กรได้เริ่มกระบวนการคัดสรรทดสอบครูใหม่ โดยเป็นการทดสอบที่ใช้ชุดข้อสอบเดียวกันกับที่ทางกระทรวงศึกษาธิการอัฟานิสถาน นำมาใช้ และการทดสอบคัดเลือกครูจะดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรของ UNICEF ในพื้นที่ 

ที่มาภาพ : twitter.com/SamMort9

ทั้งนี้ โครงการการศึกษาชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างห้องเรียนในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงหมู่บ้านแร้นแค้นยากจนและล้าหลัง ถือเป็นนโยบายการศึกษาทางเลือกในการเข้าถึงการศึกษาของรัฐบาลอัฟกานิสถาน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าถึงเด็กห่างไกลที่ไม่มีโอกาสเข้าเรียนที่โรงเรียน โดยเฉพาะสำหรับเด็กผู้หญิง

ในส่วนของข้อตกลงนี้มีชื่อว่า แผนงาน Helmand Sangin Workplan มีกำหนดความร่วมมือจนถึงเดือนธ.ค. ปีนี้ และการขยายความร่วมมือต่อไปขึ้นอยู่กับความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสร้างโรงเรียนเกิดจากการแบ่งปันจากพันธมิตรหลายฝ่าย อย่าง Global Partnership for Education, มูลนิธิ the Bill & Melinda Gates Foundation และอื่นๆ

Torek Farhadi อดีตที่ปรึกษารัฐบาลอัฟกานิสถาน และนักวิจารณ์ทางการเมืองได้ออกมาชื่นชมต่อข้อตกลงระหว่าง UNICEFกับกลุ่มตาลีบันว่าเป็นข่าวดีที่สุดที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน 

“การศึกษาเป็นสิทธิพื้นฐานสากล และที่ผ่านมาประชาคมโลกก็ตระหนักแล้วว่ารัฐบาลกรุงคาบูลไม่สามารถให้บริการไปยังพื้นที่ที่กลุ่มตาลีบันควบคุมได้ แต่โดยรวมแล้ว ผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุดก็คือเด็กของเราที่จะมีโรงเรียนและได้เรียนหนังสือ ซึ่งดีกว่าไม่มีเลย” อดีตที่ปรึกษารัฐบาลอัฟกานิสถาน กล่าว 

 

ที่มา : Rare UN-Taliban Agreement to Set Up 4,000 Schools in Insurgent-Held Afghan Territory