ครม. เห็นชอบแผนการใช้เงิน กสศ. ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 7,985,786,100 บาท ตามที่บอร์ด กสศ. เสนอมาตรการฟื้นฟูเด็กเยาวชนจากผลกระทบโควิดกลับสู่ภาวะปกติ ปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขช่วยนักเรียนยากจนพิเศษสู้ค่าครองชีพพุ่ง
วันนี้ (24 มกราคม 2566) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ตามที่คณะกรรมการบริหาร กสศ. ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 7,985,786,100 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย 9 แผนงาน โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. นวัตกรรมและการวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เช่น วิจัยและพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในมิติต่าง ๆ กรอบวงเงินงบประมาณ 267.50 ล้านบาท
2. พัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา (ปฐมวัย-ภาคบังคับ) เช่น พัฒนาระบบคัดกรองและช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในครัวเรือนยากจนที่สุดร้อยละ 15 ล่างของประเทศ เพื่อให้เข้าถึงการเรียนรู้ การจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข (ทุนเสมอภาค) โดยผลักดันให้มีการปรับอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาคเพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน รวมทั้งติดตามนักเรียนเพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา กรอบวงเงินงบประมาณ 5,359.05 ล้านบาท
3. พัฒนาคุณภาพโรงเรียนทั้งระบบ เช่น พัฒนากลไกและสร้างเครือข่ายโรงเรียนเชิงพื้นที่ในระดับจังหวัดให้เป็นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษา กรอบวงเงินงบประมาณ 280 ล้านบาท
4. จัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้/สังเคราะห์ข้อมูลระหว่างคณะทำงานจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ กรอบวงเงินงบประมาณ 70 ล้านบาท
5. พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูสำหรับโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เช่น ส่งเสริมนักเรียนยากจนพิเศษและครูตำรวจตระเวนชายแดนประจำการพื้นที่ห่างไกลที่มีใจรักในวิชาชีพครูได้เรียนครูและกลับไปเป็นครูยังภูมิลำเนาของตนเอง กรอบวงเงินงบประมาณ 394.11 ล้านบาท
6. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับสูงกว่าภาคบังคับ เช่น สนับสนุนเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อในสายอาชีพที่เสมอภาคกับเยาวชนทุกคน กรอบวงเงินงบประมาณ 1,025.92 ล้านบาท
7. ส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน และประชากรวัยแรงงานนอกระบบ เช่น ส่งเสริมให้ได้รับโอกาสกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือได้รับการพัฒนาความรู้ความสามารถจนมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพตามศักยภาพ กรอบวงเงินงบประมาณ 251 ล้านบาท
8. สื่อสารความรู้และระดมความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เช่น สนับสนุนให้เกิดพื้นที่การมีส่วนร่วมในกระบวนการนโยบายสาธารณะ กรอบวงเงินงบประมาณ 46.50 ล้านบาท
9. บริหารและพัฒนาระบบงาน โดยพัฒนาระบบตามแผนดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อช่วยลดภาระงานเชิงปริมาณ เกิดความแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดเชิงปฏิบัติงาน กรอบวงเงินงบประมาณ 291.71 ล้านบาท
“ผลผลิตสำคัญ ผลต่อประชาชนและประเทศของการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่สำคัญ เช่น เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสได้รับการอุดหนุนเงินเพื่อบรรเทาอุปสรรคการเข้าถึงการศึกษาที่สอดคล้องกับความจำเป็นตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2,636,304 คน/ครั้ง เยาวชนและแรงงานนอกระบบการศึกษาได้รับการช่วยเหลือตามความจำเป็นหรือสนับสนุนให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือได้รับการพัฒนาทักษะวิชาชีพที่เหมาะสม ครูและหน่วยจัดการเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบการศึกษาได้รับการพัฒนาคุณภาพทั่วถึง” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อไปว่า กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มีส่วนสำคัญที่ช่วยดูแลเด็กและเยาวชนซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา โดยมีเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขช่วยบรรเทาหรือลดอุปสรรคทางการศึกษา ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็น ตั้งแต่ระดับประถมวัยจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นอกจากนี้กลุ่มเยาวชนและแรงงานที่ปัจจุบันอยู่นอกระบบการศึกษา ก็สามารถได้รับการช่วยเหลือตามความจำเป็น สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือได้รับการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ รวมถึงทักษะด้านวิชาชีพที่เหมาะสมต่อไปด้วย
ในส่วนของครูและหน่วยจัดการเรียนรู้ สามารถสนับสนุนการการพัฒนาคุณภาพทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษาที่เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
“ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความใส่ใจ และมีความตั้งใจจริงที่จะผลักดันคุณภาพเรื่องของการศึกษาให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในระบบและนอกระบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำต่อไป”
อ่าน – บอร์ด กสศ. เสนอ ครม. อนุมัติงบแก้เหลื่อมล้ำการศึกษาปี 67