ครม. มีมติเห็นชอบการออกสลากการกุศล เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา วงเงิน 135.98 ล้านบาท

ครม. มีมติเห็นชอบการออกสลากการกุศล เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา วงเงิน 135.98 ล้านบาท

23 กรกฎาคม 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการออกสลากการกุศล เพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากฯ จำนวน 11 โครงการ วงเงินรวม 837.65 ล้านบาท เพื่อช่วยสนับสนุนโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาด้านการสาธารณสุข การป้องกันและบรรเทาโรคติดต่อ และการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม รวมทั้งก่อประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสังคมที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐอย่างทั่วถึงในวงกว้างหรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขและบริการขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึงและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น รวมทั้งลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อีกทางหนึ่ง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและมอบหมาย ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้

1.1 การออกสลากการกุศล (สลากฯ) เพื่อสนับสนุนโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากฯ (คณะกรรมการฯ) จำนวน 11 โครงการ วงเงินรวม 837.65 ล้านบาท

หนึ่งในนั้น คือ โครงการสลากเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ผ่านการสร้างโอกาสทางการศึกษาสายอาชีพและการเรียนรู้สำหรับผู้พิการ เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยให้การสนับสนุนงบงบประมาณเพื่อดำเนินกิจกรรมตามแผนงานจำนวน 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานที่ 1 แผนการพัฒนาและศึกษาต่อในระดับสูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน (หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล/ผู้ช่วยทันตแพทย์ ประเภททุน 1 ปี) และแผนงานที่ 3 แผนการพัฒนาการเรียนรู้และอาชีพแก่เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน หน่วยงานเจ้าของโครงการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา วงเงิน 135.98 ล้านบาท

1.2 ให้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (สำนักงานสลากฯ) ดำเนินการดังนี้

1.2.1 เป็นผู้จัดพิมพ์จัดจำหน่ายและจ่ายเงินรางวัลสลากฯ

1.2.2 ประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการออกสลากฯ การขออนุญาตการออกสลากฯ โดยปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการนำส่งเงินให้หน่วยงานเจ้าของโครงการตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ โดยให้ผู้รับใบอนุญาตการออกสลากฯ เสียภาษีการพนันเหลือร้อยละ 0.5 แห่งยอดราคาสลากซึ่งมีผู้รับซื้อก่อนหักรายจ่ายตามข้อ 12 (4) ของกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2543)

1.2.3 จัดทำแผนการออกสลากฯ และแผนการใช้เงินของแต่ละโครงการและรายงานต่อคณะกรรมการฯ เพื่อประโยชน์ในการกรรม ติดตามการดำเนินโครงการที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้

1.2.4 บริหารการจ่ายเงินให้หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากโครงการสนตามความเหมาะสมและเร่งด่วนเพื่อให้โครงการสลากสามารถเบิกจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว

1.3 ให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการดังนี้

1.3.1 กำหนดระยะเวลาในการผูกพันวงเงินของโครงการที่ได้รับการสนับสนุน และหากเกิดกรณีที่หน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถผูกพันวงเงินได้ตามกำหนดให้คณะกรรมการฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาผูกพันวงเงินหรือหากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกวงเงินทรัพย์สินโครงการดังกล่าว

1.3.2 เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการใช้เงินภายในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนโดยจะต้องไม่เปลี่ยนแปลงเป็นกิจกรรมที่แตกต่างจากโครงการที่นำเสนอคณะ รัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ

สคร. และสำนักงานสลากฯ ได้ประชาสัมพันธ์เผยแพร่หลักเกณฑ์ฯ และรายละเอียดของข้อมูลโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินฯ ตามมติคณะกรรมการฯ ดังกล่าวในเว็บไซต์ สคร. และสำนักงานสลากฯ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 พร้อมทั้งกำหนดให้หน่วยงานที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนยื่นขอรับการสนับสนุนตามรายละเอียดข้อมูลโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินฯ มายัง สคร. ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 26 มกราคม 2567 ด้วย ณ วันที่ 26 มกราคม 2567 มีหน่วยงานยื่นข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินฯ จำนวนรวมทั้งสิ้น 25 โครงการวงเงิน 3,698.65 ล้านบาท

คณะกรรมการการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 และครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 มีมติเห็นชอบผลการกลั่นกรองโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินฯจำนวน 11 โครงการ วงเงิน 837.75 ล้านบาท ตามที่คณะทำงานการกรองโครงการสลากฯ เสนอและเห็นชอบให้นำเสนอ กค. เพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการที่ได้รับการสนับสนุน โดยมีรายละเอียดสรุปโครงการที่ได้รับการสนับสนุนดังนี้

สำหรับโครงการสลากเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ผ่านการสร้างโอกาสทางการศึกษาสายอาชีพและการเรียนรู้สำหรับผู้พิการ เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ที่ ครม.มีมติล่าสุดนั้น ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือ แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะกับ กสศ. นำโดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานบอร์ด กสศ. และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผจก กสศ. และกรรมการบอร์ด กสศ. โดย กสศ.ได้มีข้อเสนอสำคัญ 4 ข้อ หนึ่งในนั้นเป็นมาตรการระดมทรัพยากรเพื่อสนับสนุนภารกิจเพิ่มเติม จากการออกสลากเพื่อความเสมอภาค ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและมาตรการในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษาของไทย และช่วยเหลือเด็กทุกคนผ่านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์อย่างเต็มที่ กระทั่งมีมติดังกล่าว คลิก