“เราเห็นผลแล้วว่าคอมพิวเตอร์ที่กระจายไปยังโรงเรียนห่างไกลทุรกันดารต่าง ๆ สามารถช่วยเด็กให้เรียนรู้เพิ่มขึ้นได้มาก วันนี้เราเลยคูณไปว่า ถ้าเราให้คอมพิวเตอร์อีก 100 เครื่อง ก็หมายถึงมีเด็กที่จะได้โอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม”
คุณเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว เล่าถึงแรงบันดาลใจเริ่มต้นในการทำงานร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาค (กสศ.) ในการมุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาและคุณภาพชีวิตให้กับน้อง ๆ นักเรียนด้อยโอกาสในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล เพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยจับมือ กสศ. ในฐานะที่ปรึกษาด้านข้อมูล ชี้เป้าโรงเรียนที่ขาดแคลนทุนการศึกษา และเครื่องมืออุปกรณ์การเรียน ยืนยันเดินหน้าโครงการต่อเนื่องทุกปี ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นไปด้วยกัน
“กิจกรรมครั้งนี้มีจุดตั้งต้นจากการร่วมงานกับ กสศ. คราวก่อน ที่ทำให้รู้ว่าถ้าเราไม่ได้ลงพื้นที่เอง คงไม่เชื่อว่าคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องนั้น สามารถเชื่อมโยงการเรียนรู้ของเด็กในพื้นที่ห่างไกลได้ทั้งโรงเรียน ซึ่งครั้งก่อนเราได้เข้าไปมอบคอมพิวเตอร์ ทุนการศึกษา อุปกรณ์กการเรียน อุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในพื้นที่ตะเข็บชายแดน โดยอาศัยข้อมูลคำแนะนำจาก กสศ. ที่ช่วยให้ทุนและสิ่งของจำเป็นได้ไปถึงมือน้อง ๆ ที่สมควรได้รับจริง ๆ
“จากนั้น กสศ. ได้ติดตามผล รายงานว่าเกิดผลลัพธ์ในทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง จนนำมาสู่ความร่วมมือครั้งนี้ ที่ KPMG ตั้งใจมอบเงินและสิ่งของ เพื่อสมทบทุนโครงการก้าวเพื่อน้อง พร้อมนำความรู้ความชำนาญด้านบริหารเงินทุนที่เรามี เข้าไปช่วยสนับสนุนการทำงานในระยะยาว ให้น้อง ๆ ก้าวข้ามความด้อยโอกาส ไปถึงความตั้งใจและเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างยั่งยืน”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท KPMG ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า KPMG มีความยินดีที่จะมอบคอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงความรู้ให้กับน้อง ๆ พร้อมกับบริจาคเงินสมทบโครงการก้าวเพื่อน้อง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล เป็นจำนวน 500,000 บาท
นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับ กสศ. ถึงทิศทางความร่วมมือที่จะตามมาในอนาคต อาทิ การให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในการอบรมทักษะด้านการเงิน การวางแผนการเงินให้กับเด็กยากจนด้อยโอกาสที่อยู่ในความดูแล เพื่อให้สามารถบริหารเงินทุนให้เพียงพอ เป็นประโยชน์กับชีวิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือนำไปต่อยอดให้เกิดผลดียิ่งขึ้น
“เราจะเป็นมือหนึ่งที่ช่วยผลักดันโครงการก้าวเพื่อน้องของมูลนิธิก้าวคนละก้าว เพื่อให้ความช่วยเหลือเกิดประโยชน์กับเด็กมากที่สุด ขณะที่ กสศ. เป็นหน่วยงานที่จัดการเรื่องเงินบริจาคทั้งหมด บนพื้นฐานความรู้เรื่องการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้อยโอกาส ซึ่งเราเคยร่วมงานกันมาแล้ว จึงมั่นใจว่าเงินทุกบาทและสิ่งของทุกชิ้นจะถูกใช้อย่างเต็มศักยภาพจริง ๆ
“นอกจากนี้ เราคิดว่าอยากเพิ่มเรื่ององค์ความรู้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนคุยกันว่า KPMG สามารถให้ความช่วยเหลือในส่วนใดได้บ้าง เพราะเรามีความรู้ความสามารถเรื่องให้คำปรึกษาอยู่แล้ว โดยความเป็นไปได้คือ 1.การจัดอบรมเรื่องทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ออนไลน์ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญ 2.คือการบริหารทรัพย์สิน หมายถึงเมื่อเด็กได้รับทุนไปแล้ว เขาจำเป็นต้องมีระบบช่วยเหลือในเรื่องการใช้จ่ายภายในครอบครัว ซึ่งเราคิดว่าถ้าช่วยให้ความรู้เรื่องการบริหารเงินที่ถูกต้องได้ ประโยชน์จะลงไปถึงเด็กมากขึ้น
“ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของ KPMG ที่เราเล็งเห็นแล้วว่าตรงกับเป้าหมายการทำงานของ กสศ. คือระดมทั้งทุนที่เป็นตัวเงินและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้บรรเทาลง ซึ่งถ้าใครมีศักยภาพความพร้อมเพียงพอ ก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของใครหรือหน่วยงานใดหนึ่ง”