กระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ เปิดตัวแคมเปญประชาสัมพันธ์ที่มุ่งขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์แก่นักเรียนทั่วประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะมาได้ หลังการศึกษาพบว่า มีนักเรียนทั่วสหรัฐฯ มากถึง 17 ล้านคนที่ขาดการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่เด็กนักเรียนไม่สามารถเข้าถึงห้องเรียนออนไลน์หรือทำการบ้านที่ได้รับมอบหมายบนโลกออนไลน์ได้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การดำเนินการดังกล่าวค่อนข้างจะล่าช้า เพราะมีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปิดโรงเรียนในทุกระดับชั้น รวมถึงมหาวิทยาลัย นานกว่า 1 ปีแล้ว บีบให้นักเรียนที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตเหล่านั้นต้องดิ้นรนขวนขวายหาทางเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเอาเอง หนึ่งในวิธีที่เด็กส่วนใหญ่ใช้ก็คือการขอยืมโทรศัพท์มือถือของพ่อแม่มาใช้งานเพื่อทำการบ้าน หรือจำเป็นต้องออกจากบ้านแม้จะอยู่ในช่วงกักตัวเพื่อไปใช้บริการฟรีไวไฟตามห้องสมุด อาคารเรียน หรือเครือร้านอาหารฟาสต์ฟูด สะท้อนให้เห็นภาพความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของครอบครัวยากจนในสหรัฐฯ
Jessica Rosenworcel รักษาการประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารกลาง (Federal Communications Commission : FCC) กล่าวว่า ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในสังคมโลกยุคใหม่ และการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเครือข่ายบรอดแบนด์เพื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ ยังไม่ได้อยู่ในระดับดีอย่างที่ควรจะเป็น และจำเป็นต้องมีการปรับปรุงขนานใหญ่
“กระทั่งก่อนที่สถานการณ์ไวรัสจะระบาดในประเทศที่เราอาศัยอยู่ เราก็มีนักเรียนจำนวนหลายล้านคนที่ขาดบรอดแบนด์ภายในบ้านเพื่อการใช้งานด้านการเรียนออนไลน์ รวมถึงทำแบบฝึกหัดออนไลน์ที่ได้รับมอบหลายจากครู พวกเขา (นักเรียน) ตกอยู่ในช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นส่วนที่โหดร้ายที่สุดของการแตกแยกทางดิจิทัลในประเทศของเรา” รักษาการประธาน FCC กล่าว
รายงานระบุว่า ส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง FCC และกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ รวมถึงความพยายามในการติดต่อกับครอบครัวนับล้านที่มีบุตรหลายเข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันหรืออาหารเช้าในโรงเรียนฟรี หรือราคาพิเศษ รวมถึงผู้รับทุน Pell Grants ที่มีอยู่ประมาณ 6.5 ล้านคน เพื่อให้คนกลุ่มนี้รับทราบว่าตนเองได้รับส่วนลด 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสำหรับการใช้บริการบรอดแบรนด์ พร้อมส่วนลดอีก 100 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับค่าอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น แล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือแท็บเล็ต
ขณะที่ครอบครัวจากชนเผ่าดั้งเดิมจะมีสิทธิได้รับส่วนลด 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสำหรับบรอดแบนด์ ควบคู่กับสิทธิส่วนลดค่าอุปกรณ์ในอัตราที่เท่ากัน
รายงานระบุว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการบรอดแบนด์มากกว่า 825 รายทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่ง Rosenworcel กล่าวว่าแคมเปญครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการแข่งขันที่จะช่วยผลักดันให้ราคาค่าบริการลดต่ำลงและอยู่ในราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เอื้อมถึงได้มากขึ้น
ด้าน Miguel Cardona รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ขยายประเด็นปัญหาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและความสามารถในการจ่ายค่าบริการอินเทอร์เน็ตของทั้งนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา ตลอดจนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนผิวสี นักเรียนในชุมชนชนบท หรือชนเผ่า และนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย
“เราทราบดีว่าคุณภาพของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่บ้านมีผลต่อความสำเร็จของนักเรียน และนักเรียนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพและอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ต้องดิ้นรนมากขึ้น ท่ามกลางการเรียนการสอนที่เปลี่ยนไปสู่การเรียนทางไกลออนไลน์ในปีที่ผ่านมา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าว
รัฐมนตรี Cardona ยังเสริมอีกว่า ในช่วงเวลาที่ สหรัฐฯ กำลังพื้นตัวจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 นับเป็นโอกาสอันดีที่สหรัฐฯจะสร้างระบบการศึกษาขึ้นมาใหม่ให้แข็งแกร่งและดีกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงการให้บริการการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรและราคาไม่แพงสำหรับเด็กยากจนด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้ ก่อนย้ำว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นหนึ่งในหนทางสำคัญที่จะช่วยทำให้แน่ใจว่านักเรียนได้รับความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ความสำเร็จของชีวิต
นอกจากนี้ ความพยายามในครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการขยายโครงการ Emergency Broadband Benefit Program ที่ทาง FCC จัดทำขึ้นชั่วคราวก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ทาง แต่ Rosenworcel กล่าวว่าคณะกรรมาธิการFCCมีแผนจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนนักเรียนและครอบครัวที่ได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือเพื่อยื่นเสนอต่อสภาคองเกรสในการจัดหาเงินทุนงบประมาณเพื่อดำเนินการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นการถาวร
ทั้งนี้ Rosenworcel ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธาน FCC เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวเป็นสมาชิกของทางคณะกรรมการ FCC ตั้งแต่ช่วงการบริหารงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดย Rosenworcel มีจุดยืนสนับสนุนให้รัฐบาลกลางมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยเหลือครอบครัวที่มีรายได้น้อยและนักเรียนในการจ่ายค่าบริการบรอดแบนด์ รวมถึงการสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการ E-Rate ของรัฐบาล ท่ามกลางนักเรียนที่มีรายได้น้อยจำนวนมากที่ยังคงไม่สามารถเข้าเรียนในห้องเรียนออนไลน์ได้
“การระบาดของโควิด-19 ทำให้ครอบครัวและนักเรียนหลายล้านคนต้องเปลี่ยนไปเรียนทางไกลเพียงแค่ชั่วข้ามคืน วิกฤตครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เห็นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนว่า ห้องเรียนออนไลน์เป็นห้องเรียนที่เด็กนักเรียนหลายล้านคนในสหรัฐฯเข้าไม่ถึงเพราะไม่มีอินเทอร์เน็ตคุณภาพดีใช้งานในบ้าน โดยเฉพาะนักเรียนผิวสีและนักเรียนยากจนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้” Rosenworcel กล่าวปิดท้าย
ที่มา : Education Department, FCC Team Up to Connect Students to Broadband