รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของออสเตรเลีย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เตรียมพัฒนาแผนปฏิบัติการระดับชาติ เพื่อแก้ไข “ความท้าทายครั้งใหญ่” ของการขาดแคลนครู
Jason Clare รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บรรดารัฐมนตรีรับทราบปัญหาของเหล่าคุณครูที่ต้องทำงานมากถึง 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยยาก แต่ขณะเดียวกันก็มีเรื่องราวที่น่าประทับใจ
Clare กล่าวว่า แผนระดับชาติจะเน้นที่กลยุทธ์การส่งเสริมให้คนจำนวนมากขึ้นสนใจที่จะเข้ามาเป็นครู โดยจะช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับแรงงานก่อนที่จะมาเป็นครูอาชีพ และมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรักษาจำนวนครูที่ทำงานในด้านการเรียนการสอนนี้อยู่แล้ว ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าวจะไม่ได้ถูกออกแบบมาจากฝ่ายการเมืองเพียงเท่านั้น แต่ยังมีครู ครูใหญ่ และผู้แทนจากสหภาพแรงงานและกลุ่มโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนคาทอลิกเข้าร่วมด้วย
Clare ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีวิทยุ ABC Radio National ว่า ในขณะที่จำนวนนักเรียนในห้องมีมากขึ้น แต่จำนวนครูกลับไม่ได้เพิ่มจำนวนขึ้นตาม และมีครูเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถดำเนินการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“คุณมีลูกไปโรงเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในขณะเดียวกัน เราจะเห็นนักศึกษาที่เข้ารับการฝึกอบรมครูลดลงถึง 16 % แม้ว่าจะไม่มีงานอะไรสำคัญไปกว่าการเป็นครูอีกแล้ว แต่เรากลับมีครูไม่เพียงพอ” Clare กล่าว
นอกจากนี้ อัตราการสำเร็จการศึกษาของครูยังต่ำกว่านักศึกษาในสาขาอื่นมาก มีเพียง 50 % เท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 70 % สำหรับปริญญาอื่น ๆ Clare กล่าวว่า รัฐมนตรีกำลังพิจารณาจ่ายค่าฝึกงานสำหรับการฝึกสอนของนักเรียนครูปีสุดท้าย รวมถึงประสบการณ์ตรงในขั้นต้นเพื่อปรับปรุงอัตราการคงอยู่ของนักศึกษามหาวิทยาลัยที่กำลังเรียนการสอน
นอกจากนี้ Clare ยังตั้งคำถามว่า ควรปฏิรูปเงินทุนของมหาวิทยาลัยหรือไม่ เพื่อให้เงินทุนถูกจัดสรรออกไปตามความสำเร็จมากกว่ายอดการลงทะเบียน คล้ายกับเงินทุนสนับสนุนอาชีวศึกษา ทั้งยังแย้มว่า รัฐบาลอาจพิจารณาปรับหลักสูตรประกาศนียบัตรหนึ่งปีให้สั้นลง
ด้านรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ชี้ว่า ขณะนี้ มีการโต้เถียงเกี่ยวกับการผลักดันระดับค่าจ้างครูทั่วประเทศ หลายฝ่ายมองว่าควรปล่อยให้เป็นของรัฐ และกำลังพิจารณาที่จะยกเครื่องข้อตกลงการจ่ายค่าจ้าง โดยเสนอให้ขึ้นค่าจ้างครูเริ่มต้นที่ 73,737 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ และขยับเงินเดือนขึ้นไปถึง 117,060 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับครูที่ได้รับการรับรอยอมรับในฐานะครูอาชีพเรียบร้อยแล้ว
รัฐนิวเซาท์เวลส์ยังได้เสนอให้จ้างพนักงานเพิ่มเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระการบริหารสำหรับครู โดย Sarah Mitchell รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังได้เสนอช่องทางด่วนวีซ่าสำหรับครูผู้ที่ต้องสอนในวิชาที่มีความต้องการสูง และอาจถึงขั้นเพิ่มช่องทางที่ช่วยให้ครูต่างชาติได้สัญชาติการเป็นพลเมืองได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ด้านรัฐควีนส์แลนด์กำลังเจรจาขึ้นค่าแรงสำหรับครู และสหภาพการศึกษาได้ตกลงในหลักการที่จะเพิ่มเป็น 4 % ต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้า และ 3 % ในปีถัดมา รวมถึงอาจมีการปรับอัตราเงินเฟ้อ
Clare กล่าวว่า ที่ผ่านมา เงินเดือนสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาใหม่นั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ปัญหาคือโอกาสที่เงินเดือนครูจะเพิ่มขึ้นนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยากเมื่อครูมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือมีอายุงานที่เพิ่มขึ้น เพราะค่าตอบแทนที่ครูได้รับเมื่อเริ่มต้นนั้นเป็นไปเพื่อแข่งขันกันดึงดูดครูให้เข้ามาในสถาบัน แต่หลังจากนั้นต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 10 ปี กว่าที่เงินเดือนจะปรับขึ้น
“หลังจาก 10 ปี หากคุณกำลังมองหาเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น คุณต้องออกจากห้องเรียนเพื่อไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ หรือไม่ก็ลาออกไปทำอย่างอื่น ดังนั้น เราจึงสูญเสียครูผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไปบางส่วน” Clare อธิบาย
ด้าน Grace Grace รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า รัฐมนตรีที่มาร่วมประชุมกันมีความพอใจผลของการประชุม แม้จะตระหนักดีว่ายังมีความท้าทายอีกมาก แต่อย่างน้อยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็มีเป้าหมายร่วมกัน และพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน
ที่มา : Education ministers to sign off on national workforce strategy before year’s end