สิงคโปร์เล็งสนับสนุนเด็กอาชีวะรับตลาดงานสายเทคโนโลยี
โดย : Tang See Kit - Channel News Asia
แปลและเรียบเรียง : นงลักษณ์ อัจนปัญญา

สิงคโปร์เล็งสนับสนุนเด็กอาชีวะรับตลาดงานสายเทคโนโลยี

รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเตรียมให้การสนับสนุนเด็กนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาในสายอาชีวะศึกษา ซึ่งครอบคลุมนักศึกษาและผู้สำเร็จการศึกษาจากโพลีเทคนิคและสถาบันการศึกษาด้านเทคนิค (ITE) เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับงานในตลาดงานด้านเทคโนโลยีท่ามกลางเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยหมายรวมถึง สายใหม่ๆ อย่างเช่น การปกป้องข้อมูล 

Tan Kiat How รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์กล่าวในระหว่างการขึ้นแถลงกับทางคณะกรรมการสรรหาของทางกระทรวงฯ ว่า กระทรวงฯมีแผนวางแนวทางปรับโครงสร้างเพื่อสนับสนุนนักเรียนโปลีเทคนิคและ ITE ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยจะเริ่มจากสถาบันเทคนิคฯ 1,000 แห่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ภายใต้โครงสร้างใหม่ ทางสำนักงาน Infocomm Media Development Authority (IMDA) จะจัดตั้งโครงการ TechSkills Accelerator (TeSA) สำหรับ ITEs และเครือข่ายพันธมิตร Polytechnics (TIP) Alliance ซึ่งประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและบรรดาว่าที่นายจ้างรายใหญ่ทั่วสิงคโปร์ขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญให้นักเรียนเทคนิคเหล่านี้ได้รับข้อมูลและเล็งเห็นโอกาสในการทำงานสายเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงานในปัจจุบัน

รัฐมนตรี Tan กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้สำเร็จการศึกษาจากโปลีเทคนิคและ ITE ในหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล (IDT) ออกมาบ่นว่าไม่พบงานที่เหมาะสมสอดคล้องกับสิ่งที่ตนเองได้เรียนมา ขณะที่ นักเรียนอาชีวะอีกหลายรายพบเจอกับนายจ้าง “ที่ชอบเด็กเรียนจบมหาวิทยาลัย” มากกว่า และยังมีอีกหลายคนที่พบว่า เป็นเรื่องยากที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหลังเรียนจบและก้าวเข้าสู่โลกทำงาน ผ่านการใช้บริการของรัฐบาล 

“โครงสร้างการสนับสนุนอย่างมีระบบแบบแผนที่ชัดเจนช่วยร่างแนวทางเส้นทางอาชีพของเด็กเหล่านี้ให้มั่นคงได้มายิ่งขึ้น และสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมากมายมหาศาล” รัฐมนตรี Tan กล่าว ก่อนให้คำมั่นว่า เครือข่ายพันธมิตรเอกชนชั้นนำที่เข้าร่วมจะยกระดับ “ปรับปรุงคุณภาพของโอกาสในการฝึกงาน” สำหรับนักศึกษาโปลีเทคนิคและ สถาบัน ITE

ทั้งนี้ ภายใต้แผนการใหม่ นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาสามารถฝึกงานในบริษัทที่เข้าร่วมโครงการภายใต้สถานที่และโปรแกรมการฝึกอบรมที่เปิดรับ โดยที่บริษัทเหล่านี้จะกำหนด “แผนการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นขัดเกลายทักษะและบทบาทอาชีพบนเส้นทางสายเทคโนโลยี” รวมถึงการรับรองและการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ โดยตรง

ยิ่งไปกว่านั้้น นักศึกษาจบใหม่ที่สนใจในการศึกษาต่อจะได้รับการสนับสนุนผ่านหลักสูตรอนุปริญญาหรือปริญญา Work-Study ในสาขาที่กำลังเติบโต เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ระบบคลาวด์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นต้น 

กระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์กล่าวว่า ขณะนี้มีบริษัทชั้นนำหลายแห่ง อาทิ Accenture, IBM, NCS และ PSA Corporation ได้ “ให้คำมั่น” ที่จะให้โอกาสในการฝึกงาน การฝึกงาน หรือตำแหน่งงาน ซึ่งทางรัฐมนตรี Tan ได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเข้ามาร่วมในโครงการเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ทางกระทรวงฯ ยังมีแผนที่จะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการบ่มเพาะดูแลนักเรียนนักศึกษาที่จบใหม่ของประเทศในระหว่างการหางานทำ อย่าง การจัดตั้งโปรแกรมใหม่ หรือโปรแกรมเพื่อความเชี่ยวชาญพิเศษที่มุ่งสนับสนุนความต้องการด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในภาคส่วนต่างๆอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้มีการเริ่มต้นไปบ้างแล้วก็คือหลักสูตรการศึกษาใหม่สำหรับสาขาคอมพิวเตอร์ประยุกต์ที่จะเน้นความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ซึ่งจะเปิดสอนที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งสิงคโปร์ (SIT) ภายในปีนี้

รายงานระบุว่า หลักสูตรข้างต้นเป็นหลักสูตรศึกษา 3 ปี ที่เน้นการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยควบคู่กันไป และปีแรกจะเปิดรับ 40 คนก่อน โดยนักศึกษาจะได้รับการฝึกอบรมด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ การจัดการโครงการ ตลอดจนการเติบโตในด้านต่างๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่องและบล็อกเชน ในขณะที่มีความรู้ด้านโดเมนการเงินที่เกี่ยวข้อง

สำนักงาน IMDA และธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่า หลักสูตรดังกล่าว “ได้รับการรับรอง” จากพันธมิตรในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น  AIA Singapore, DBS, JP Morgan และ Standard Chartered

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเตรียมออกแนวทางเชิงนโยบายเพิ่มเติมเนื่องจากยังมีความจำเป็นในการเพิ่มและเสริมทักษะให้กับกำลังแรงงานด้านเทคโนโลยีที่มีอยู่ของประเทศท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยท่ามกลางความพยายามเหล่านี้ รัฐมนตรี Tan กล่าวว่า ทางสำนักงาน IMDA จะเปิดตัว ICT Jobs Transformation Map ในปลายปีนี้ เพื่อช่วยให้นายจ้างและพนักงานทั่วทั้งภาคส่วนสามารถระบุพื้นที่ที่มีความต้องการถ่ายโอนแรงงานทักษะขั้นสูง ตลอดจนโอกาสในการเพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องหรือโอกาสในการเพิ่มทักษะที่จำเป็นต่อไป 

ที่มา : More support for poly and ITE graduates to get tech jobs, new data protection programme for businesses