กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าผ่อนคลายกฎระเบียบและลดทอนขั้นตอนความซับซ้อนของการขอรับทุนสนับสนุนการศึกษาในโครงการ TEACH Grants เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้คุณครูทั่วสหรัฐฯ ขอรับทุนการศึกษาเพื่อยกระดับความรู้และทักษะการสอนของตน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง หรือหาทางขอกู้ยืมเงินมาเพื่อเรียนต่อ ทำให้ครูมีปัญหาเรื่องหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจำนวนมาก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกระทรวงการศึกษาธิการเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎระเบียบดังกล่าวได้รับการอนุมัติตั้งแต่ยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เพิ่งจะผ่านกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายของสภาและมีผลบังคับใช้เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และถือเป็นหนึ่งในไม่กี่มาตรการเพื่อการศึกษาของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่ได้รับการยอมรับและสนับสนุนให้เดินหน้าต่อในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมถึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในชัยชนะสำคัญของครูทั่วสหรัฐฯ
มิเกล คาร์โดนา (Miguel Cardona) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ กล่าวว่า การส่งผ่านกฎหมายเพื่อให้เกิดผลได้จริงถือเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการยกระดับการให้ความช่วยเหลือครูทั้งหลายในการได้รับทุนการศึกษาเพื่อเล่าเรียนต่อ โดยไม่ต้องแบกรับภาระผูกพันหนี้สินทางการศึกษาที่ตามมาในภายหลัง โดยขณะนี้ทางทำเนียบขาวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเดินหน้าขยายโครงการให้ทุนการศึกษาครูได้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงเร่งจัดสรรนโยบายอื่นๆ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาขาดแคลนครูในสหรัฐฯ ในห้วงเวลานี้
ทั้งนี้โครงการ TEACH Grants ซึ่งย่อมาจาก Teacher Education Assistance for College and Higher Education เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นในปี 2007 โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายจำนวนบุคลากรครูทั่วประเทศ รวมถึงสร้างครูให้เพียงพอกับโรงเรียนในพื้นที่ยากจนและห่างไกล ซึ่งโครงการ TEACH Grants นี้เป็นโครงการช่วยเหลือทางด้านการศึกษาสำหรับครูในการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา
รายงานระบุว่า ภายใต้โครงการดังกล่าวนักเรียนครูจะได้รับทุนสนับสนุนค่าเล่าเรียนที่ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 128,806 บาทต่อปี) โดยมีเงื่อนไขว่าครูเหล่านั้นมีแผนที่จะสอนในวิชาที่เป็นที่ต้องการในโรงเรียนเพื่อเด็กยากจน และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วครูเหล่านี้ต้องทำการสอนอย่างน้อย 4 ปีภายในเวลา 8 ปีหลังเรียนจบ รวมถึงต้องส่งเอกสารรายงานให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะกลายเป็นเงินกู้ยืมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่จะต้องชำระคืนแบบเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย
โดยนับตั้งแต่จัดทำโครงการมีนักเรียนครูมากกว่า 200,000 คนได้รับทุนเหล่านี้แล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันต่างเห็นพ้องออกมาเรียกร้องให้มีการยกระดับพัฒนาโครงการให้ทุนการศึกษาครูอย่างจริงจัง หลังจากที่หน่วยงานเฝ้าระวังของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พบว่าในปี 2015 มีนักเรียนทุนครูหลายพันคนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการจนต้องกลายมาแบกรับหนี้แทน ขณะที่ข้อมูลล่าสุดในปี 2019 เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ขอรับทุนครูทั้งหมดต้องยอมรับที่จะหันมาใช้หนี้ของตนแทน โดยรายงานของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ พบว่าหลายกรณีเกิดขึ้นเพียงเพราะผู้สมัครขอรับทุนไม่ได้ส่งเอกสารประจำปียืนยันสถานะครูอาชีพของตนเอง
ทั้งนี้ เบตซีย์ เดวอส (Betsy DeVos) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ได้เริ่มเคลื่อนไหวผลักดันเพื่อผ่อนปรนระเบียบเงื่อนไขของโครงการทุนครูเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางการเดินหน้าเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการศึกษาหลายข้อ โดยเดวอสได้ปรับกฎที่มุ่งลดขั้นตอนความยุ่งยากด้านเอกสารและเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อลดปัญหาให้กับผู้ขอรับทุน ซึ่งกฎระเบียบที่ปรับปรุงเหล่านี้เดิมมีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม
สำหรับนโยบายใหม่ที่มีผลบังคับใช้นี้จะส่งผลให้นักเรียนครูไม่จำเป็นต้องยื่นแบบฟอร์มแสดงสถานะการสอน หรือสถานะครู หรือขั้นตอนการสมัครเป็นครูภายใน 120 วันหลังสำเร็จการศึกษาแต่อย่างใด กระนั้นเมื่อใดที่เริ่มทำงานครู นักเรียนครูเหล่านี้ยังคงต้องส่งเอกสารประจำปียืนยันสถานะของตนเองอยู่ดี เพียงแต่ว่าคราวนี้ถ้าไม่ส่ง ระบบก็ไม่เปลี่ยนทุนการศึกษาเป็นหนี้ทางการศึกษาเหมือนที่แล้วมา
ด้านกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ย้ำว่า การเปลี่ยนทุนการศึกษาเป็นหนี้ทางการศึกษาจะมีขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้รับทุนร้องขอเท่านั้น หรือในกรณีที่หมดเวลาตามเงื่อนไขที่ต้องสอน 4 ปีต่อเนื่องภายในระยะเวลา 8 ปีหลังเรียนจบ นอกจากนี้การผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้ยังเปิดทางให้นักเรียนทุนยื่นขอกระบวนการอุทธรณ์เพื่อให้ทางโครงการพิจารณากรณีที่ทุนของตนกลายเป็นหนี้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนกลับมาได้รับเครดิตทุนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีแผนที่จะขยายโครงการทุนการศึกษาครูภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ American Families Plan ของตนเอง โดยข้อเสนอของประธานาธิบดีไบเดนจะเพิ่มมูลค่าทุนขึ้นเป็นสองเท่า คือจาก 4,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็น 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 257,612 บาท) สำหรับนักเรียนมัธยมปลายที่เพิ่งเรียนจบและคิดจะเรียนต่อเป็นครู นักศึกษาที่จบปริญญาตรี และครูอาวุโสที่มีประสบการณ์สอนแล้ว แต่ต้องการเพิ่มทักษะความสามารถของตน ขณะเดียวกันประธานาธิบดีไบเดนยังมีแผนที่จะตัดเงื่อนไขดอกเบี้ยในกรณีที่ทุนการศึกษากลายเป็นหนี้การศึกษา รวมถึงเดินหน้าขยายโครงการให้ทุนการศึกษาสำหรับครูอนุบาลและครูปฐมวัย
ทั้งนี้ทางทำเนียบขาวประเมินในเบื้องต้นว่า ข้อเสนอของผู้นำสหรัฐฯ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้รับทุนได้มากกว่า 50% หรือเกือบ 40,000 คนภายในปี 2022
ที่มา : Overhaul makes it easier for aspiring teachers to get grants
