อังกฤษเปิดเผยการวิจัยฉบับล่าสุดที่พบว่า การที่ คุณพ่อ มาเล่นกับลูก ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลง วาดภาพระบายสี หรือเล่นกีฬาเป็นประจำ จะช่วยให้ลูก ๆ มีผลการเรียนที่ดีที่โรงเรียนดีขึ้น โดยการวิจัยย้ำว่า คุณพ่อ ต้องทำกิจกรรมร่วมกันกับลูก ไม่ใช่แค่ใช้เวลามานั่งอยู่ด้วยกันแต่เพียงอย่างเดียว
เว็บไซต์ข่าวไอนิวส์ของอังกฤษ เปิดเผยรายงานผลการศึกษาวิจัยของฝ่ายวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) ซึ่งพบว่า เด็กๆ จะเรียนหนังสือได้ดีขึ้นที่โรงเรียนถ้าพวกเขารู้สึกว่าได้ใช้เวลาเล่นกับ คุณพ่อ อย่างมากพอ
อย่างไรก็ตาม การศึกษาของทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยลีดส์ไม่พบผลกระทบที่คล้ายคลึงกันในกรณีของฝั่งแม่
ทั้งนี้ นักวิจัยจากคณะวิชาธุรกิจมหาวิทยาลัยลีดส์ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่เกิดในปี 2000-2001 ในครัวเรือนที่มีพ่อและแม่จำนวน 4,966 ครัวเรือนในอังกฤษ โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษาถึงบทบาทของพ่อที่มีต่อการเลี้ยงดูลูกในครอบครัว ภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันความเป็นพ่อ หรือ Fatherhood Institute ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลและคลังความคิดที่มุ่งหวังที่จะให้ “เด็กทุกคนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ หรือบุคคลที่เปรียบเสมือนพ่อ”
โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำรวจมาพบว่าเวลาที่พ่อใช้เวลาวาดรูป ระบายสี เล่นเกม หรืออ่านหนังสือกับลูกๆ มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของเด็กๆ ในโรงเรียน
ขณะเดียวกัน การศึกษายังพบว่า โอกาสที่เด็กจะมีพัฒนาการทางอารมณ์และสติปัญญาในระดับที่ดีเมื่ออายุได้ 5 ขวบ ลดลงถึง 18% หากคุณพ่อบอกกับลูก ๆ “ไม่มีเวลาเล่น” กับพวกเขา
ทั้งนี้ ความสำเร็จของพัฒนาการทางอารมณ์และสติปัญญาในช่วงปฐมวัย จะประเมินจาก 13 ด้านด้วยกัน อาทิเช่น “นิสัยและทัศนคติ”, “การพัฒนาทางอารมณ์”. “การอ่าน – การเขียน” และ “ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโลก” เป็นต้น
นอกจากนี้ ข้อมูลการสำรวจพบว่า 18% ของคุณพ่อยอมรับว่าเวลาที่พวกเขาใช้กับลูกวัย 5 ขวบของพวกเขานั้น “ไม่เพียงพอ” ในขณะที่อีก 41 เปอร์เซ็นต์รู้สึกว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้น “ไม่เพียงพอ”
แม้ว่า การศึกษานี้จะไม่ได้ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างความก้าวหน้าของเด็กกับเวลาที่แม่ใช้เล่นกับลูก แต่นักวิจัยระบุว่า โดยปกติคุณแม่จะใช้เวลาอยู่ และเล่นกับลูกมากกว่าพ่ออยู่แล้ว ดังนั้น จึงอาจเป็นไปได้ว่า ความสัมพันธ์และความใกล้ชิดกับแม่จะให้ผลลัพธ์ที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กที่ต่างออกไป ซึ่งต้องทำการศึกษากันต่อไป
ดอกเตอร์ เฮเลน นอร์แมน ผู้เข้าร่วมการทำวิจัยในครั้งนี้ กล่าวระหว่างการนำเสนอผลการวิจัยที่การประชุมประจำปีของสมาคมสังคมวิทยาแห่งอังกฤษ หรือ British Sociological Association เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สิ่งที่ค้นพบคืออัตราส่วนของเด็กที่สามารถบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวมในระดับที่ดีในช่วงปีแรกๆ เพิ่มมากขึ้น เมื่อพ่อมีส่วนร่วมในกิจกรรมการดูแลเด็กเป็นประจำ เช่น การวาดภาพและระบายสี เล่นเกม และอ่านหนังสือกับลูกๆ
“แม่มักจะพูดว่าเวลาที่อยู่กับลูกนั้นเพียงพอหรือมากเกินเพียงพอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนเป็นแม่มักจะเป็นคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเลี้ยงลูก ดังนั้น การไม่มีเวลากับลูกจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย” ดร.นอร์แมนกล่าว ก่อนเสริมว่า ในการศึกษาพบมีคุณแม่เพียง 5% เท่านั้นที่ยอมรับว่าไม่มีเวลาอยู่กับลูกวัย 5 ขวบของตนเองเมื่อเทียบกับคุณพ่อที่มีถึง 18%
ยิ่งไปกว่านั้น ความเชื่อมโยงระหว่างพัฒนาการของลูกกับเวลาที่พ่อบอกว่าเคยใช้ร่วมกันยังถือเป็นปัจจัยสำคัญแม้ในกรณีที่ทำการศึกษาภายใต้ปัจจัยควบคุมอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จของลูก ยกตัวอย่างเช่น เพศ เชื้อชาติ รายได้ครอบครัว และสถานะการจ้างงานของผู้ปกครอง เป็นต้น
ทั้งนี้ โดยรวมแล้ว ผลการศึกษาพบว่าหากคุณพ่อใช้เวลาเล่นกับลูกมากพอ เด็กหญิง 62% บรรลุผลสำเร็จในการเรียนได้ในระดับดี ส่วนเด็กชายบรรลุผลสำเร็จถึง 47 % ขณะที่เด็กจากครัวเรือนที่ยากจนก็ยังสามารถบรรลุผลสำเร็จได้กว่า 39% เมื่อเทียบกับเด็กจากครอบครัวร่ำรวยที่บรรลุผลสำเร็จ 58%
