iSEE ฐานข้อมูลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
“iSEE” ฐานข้อมูลช่วยแก้ปัญหา
ความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) วิจัยพัฒนาระบบ สารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
(Information System for Equitable Education) หรือ iSEE ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่
รายบุคคล ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนผู้ขาดเเคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสมากกว่า 4 ล้านคน
โดยเชื่อมโยงเลขประจำตัว 13 หลักของเด็กและครอบครัวกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐรวม 6 กระทรวง
และข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)
https://isee.eef.or.th/
ศักยภาพของ iSEE
สำรวจถึงที่อยู่ พบตัวตนจริงและใช้ระบบสารสนเทศที่มีความแม่นยำสูง
ประมวลผล บริหารจัดการช่วยเหลือ ทั้งยังติดตามการมาเรียนและพัฒนาการจนสำเร็จ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นกำลังคนที่มีศักยภาพของประเทศ
ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
iSEE ใช้งานง่าย
รวมทั้งผ่านคอมพิวเตอร์ระบบ PC และ Mac เพื่อใช้เรียกดูข้อมูลได้ทุกสถานที่
และทุกเวลาสามารถรายงานผลทั้งในรูปแบบกราฟิกและตารางสรุปข้อมูลสถิติ
รวมทั้งข้อมูลภูมิสารสนเทศทั้งภาพรวมระดับประเทศ จังหวัด สถานศึกษาไปจนถึงรายบุคคล
ขั้นตอนการเก็บข้อมูล
1. ครูหรือผู้ปกครองบันทึกข้อมูลส่วนตัวรูปถ่ายบ้านและที่อยู่บ้าน
2. ส่งไปยังฐานข้อมูล
3. ระบบรายงานผล ในรูปแบบกราฟิก
รู้อะไรใน iSEE
/ สภาพปัญหา / พฤติกรรมเสี่ยง / ความช่วยเหลือ
/ อัตราการมาเรียน / ผลการเรียนและการเลื่อนชั้นข้อมูลเด็กด้านสุขภาพ
/ น้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย (BMI)
/ ผลการจัดสรรและการได้รับเงินอุดหนุนอย่างมีเงื่อนไขของนักเรียนทุนเสมอภาค
*ติดตามต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี
กว่าจะมาเป็นฐานข้อมูลระดับประเทศ
ครูและสถานศึกษา คือ หัวใจ คือต้นทางของข้อมูล พิสูจน์ว่าเด็กมีตัวตนและอยู่ในสถานะ`ครัวเรือนยากจนตามเกณฑ์จริง
จะไม่มีเด็กเยาวชนถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกต่อไป
iSEE เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้รัฐบาลมองเห็นและติดตามสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
และขยายผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านต่างๆ ของเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นฐานข้อมูลที่ทุกหน่วยงานสามารถใช้ดูแลกลุ่มเป้าหมายร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนเชื่อมโยงข้อมูลของโครงการ
ลดความเหลื่อมล้ำต่างๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
และโครงการเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้มีเด็กและเยาวชนถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกแม้แต่คนเดียว